ความคืบหน้ากรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 หมายเลข 533726 ซึ่งทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลากฯจำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาทไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อหักภาษีแล้ว เหลือเงินเข้าบัญชี จำนวน 29,850,000 ล้านบาทโดยหมวดจรูญได้เบิกเงินออกมาจากธนาคารเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก จำนวน 24,350,000 บาท แต่ในที่สุดหมวดจรูญ ก็มาถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ พ.1230/60 จากนั้นส่งคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญที่เหลืออยู่เอาไว้ทั้งหมด
นอกจากคดีแพ่งนายปรีชา ยังยื่นฟ้องคดีอาญาต่อหมวดจรูญ อีก 1 คดี ศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร แต่ในที่สุดวันที่ 4 มิ.ย.2562 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า “ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง ส่วนเงินที่อยู่ในบัญชี หมวดจรูญ วิมูล ได้ดำเนินการปิดบัญชีไปแล้ว ซึ่งหลังจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ครูปรีชา พร้อมทนายความได้ต่อสู้คดีด้วยการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ครั้งแรกศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 21 ม.ค.2564 แต่ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้เลื่อนให้คู่กรณีมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1863/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ 1416/2562 ให้เร็วขึ้น จากวันที่ 21 ม.ค.64 มาเป็นวันที่ 20 ต.ค.63 เวลา 09.00 น.เร็วขึ้น 3 เดือน
ต่อมาเมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 20 ต.ค.63 ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ (จำเลย) พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มทนายความส่วนตัวได้เดินทางมาถึงศาล โดยมีนางลาวัลย์ วิมูล ขายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ พร้อมทีมทนาย และแฟนคลับจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ
เวลา 09.00 น.นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา (โจทก์) ได้เดิงทางมาถึงศาล โดยครั้งนี้นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ได้ส่งทีมทนายความเดินทางมาแทน ขณะเดียวกันนางสายรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น รักน้องสาว พัชริดาพรมตาหรือเจ๊พัช ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ครูปรีชาด้วยเช่นกัน ขาดเพียงนางปณัญชยา สุขผล หรือจะเกี่ยว พยานปากสำคัญเท่านั้น โดยครั้งนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาพเจ็บที่บัลลังก์ 7 ซึ่งคาดว่าการอ่านคำพิพากษาต้องใช้เวลานานประมาณ 2-3 ชั่วโมงจึงจะทราบผลว่า จะยืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้นหรือจะพิจารณา ว่าดีมีมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ศาลจึงกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าวไว้ด้วย โดยอนุญาตให้ทนายความฝ่ายละ 3 คน ผู้ติดตามฝ่ายละ 9 คน (รวมโจทก์และจำเลย) และผู้สื่อข่าว 2 คน เข้าร่วมรับฟังเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้ามาภายในห้องพิจารณา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.50 น.ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนั้นศาลอุทธรณ์จึงเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นพิพากษายืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี