“ดีเอสไอ-กรมป่าไม้” ขยายผลยึดไม้หวงห้ามมูลค่า 160 ล้านบาท จากขบวนการค้ายา รับเป็นคดีพิเศษ เตรียมสอบธุรกรรมการเงินคู่ขนานเส้นทางค้าไม้เถื่อน พบสำแดงหลักฐานเท็จ
21 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ร่วมแถลงข่าว “ยุทธการพิทักษ์ไทยยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่ 6/2563
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21สิงหาคม 2563 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าตรวจค้นบ้านนายสาธิต วิยาภรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 594/2563 ที่หมู่ 2ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากดีเอสไอและ ป.ป.ส.ได้ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน ยึดอายัดทรัพย์นายสาธิต ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดมูลค่า 508 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสาธิต และพบว่ามีไม้แปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ จึงได้ประสานไปยังกรมป่าไม้เข้าตรวจสอบประเภทไม้และแหล่งที่มา พบว่ามีไม้พะยูง จำนวน 409 แผ่น ไม้ชิงชันจำนวน 1,207 แผ่น ไม้สักจำนวน 170 แผ่น ไม้มะค่าโมง 17แผ่น โดยไม้ดังกล่าวเป็นไม้หวงห้าม จึงมีความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 สำหรับไม้ดังกล่าวมีมูลค่าซื้อขายจำนวน 160 ล้านบาท จึงมอบหมายให้ดีเอสไอตั้งคดีใหม่โดยรับคดีเป็นคดีพิเศษ กรณีกระทำผิดครอบครองไม้หวงห้ามโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
ขณะที่นายชีวะภาพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม้แปรรูปดังกล่าวไม่ใช่ไม้นำเข้าจากต่างประเทศ แต่เชื่อว่าเป็นไม้จากพื้นที่ทางภาคอีสานที่ถูกแปรรูปและนำมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านของนายสาธิต ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว โดยไม้พะยูงที่แปรรูปมีอายุระหว่าง 4-5 ปีและมีไม้บางส่วนนำเข้าจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและขยายผลว่าเป็นการลักลอบตัดไม้ออกมาจากเขตพื้นที่อนุรักษ์หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือไม่ เนื่องจากไม้ที่ยึดได้มีการใช้เอกสารอันเป็นเท็จ
“ทุกครั้งที่มีการจับกุมไม้พะยูงหรือไม้หวงห้าม ทางผู้ต้องหามักจะอ้างว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้แปรรูปนำเข้ามาจากแอฟริกา ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้และเชื่อว่าไม้จำนวนมากที่พบในบ้านผู้ต้องหาไม่ใช่ไม้ที่นำมาไว้ใช้ประโยชน์ แต่เป็นไม้ที่เตรียมรอไว้ส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งกรมป่าไม้จะต้องตรวจสอบรูปพรรณไม้ โดยขยายผลควบคู่ไปกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของดีเอสไอว่ามีการเชื่อมโยงไปยังขบวนการลักลอบค้าไม้กลุ่มใดเพื่อหาความเชื่อมโยงต่อไป ทั้งนี้ จากการสอบปากคำพ่อแม่และน้องสาวของนายสาธิต ระบุว่าไม่ทราบว่ามีการซุกซ่อนไม้และไม่รู้รายละเอียดใดๆทั้งสิ้น” นายชีวะภาพ กล่าว
นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับกรมป่าไม้เพื่อขอนำไม้หวงห้ามไปใช้ประโยชน์กับทางราชการ ซึ่งหลังคดีเสร็จสิ้นทางคณะกรรมการบริหารจัดการไม้มีค่า จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะอนุญาตให้นำไม้ของกลางที่ยึดอายัดไปใช้ประโยชน์ในจำนวนเท่าใด
ด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้ป.ป.ส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเครือข่ายยาเสพติดเพื่อหาความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้าไม้เถื่อนว่า จะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับกับนักค้ารายใด แต่จากผลการจับกุมคดีสำคัญในช่วงวันที่ 1-20 ตุลาคมที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาได้ 7,378คน จากจำนวน 7,059 คดี ยึดยาบ้าได้ 10 ล้านเม็ด ไอซ์ 996 กิโลกรัม เฮโรอีน 401 กิโลกรัม รวมถึงกัญชาและเคตามีน พร้อมทั้งสามารถขยายผลยึดอายัดทรัพย์ได้ 51 ราย จาก 6 เครือข่ายค้ายาเสพติด ได้แก่ เครือข่ายชาวเขาและชนกลุ่มน้อย 4 คดี เครือข่ายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 คดี เครือข่าย กทม.และปริมณฑล 4 คดี พื้นที่ภาคใต้ 3 คดี เจ้าหน้าที่รัฐ 1 คดี และเครือข่ายระหว่างประเทศ 2 คดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี