‘สธ.’เร่งถอดรหัสพันธุกรรม
หาที่มาเชื้อโควิด
หลังแหม่มติดจากฟิตเนสปากน้ำ
สั่งทำความสะอาด-ปิดบริการ
ป้องกันไวรัสลุกลามขยายวง
“ศบค.”พบไทยป่วยโควิดใหม่ 5 คน มาจาก 4 ปท. สะสม 3,736 ราย หายป่วย 3,530 ราย ด้าน สธ.เผยผลสอบสวนโรคกรณีแหม่มฝรั่งเศสติดเชื้อในประเทศยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต้องรอผลตรวจสารพันธุกรรมไวรัสเพื่อให้รู้ว่าติดเชื้อจากใคร ติดจากที่ไหน ติดได้อย่างไร
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
หรือศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย โดยมาจากต่างแระเทศ อยู่ในสถานที่กักกันรัฐแล้ว ส่วนผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,736 ราย หายป่วยแล้ว 3,530 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย มาจาก บาห์เรน 2 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย
ลุ้นถอดรหัสพันธุกรรมมาจากใคร
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าของกรณีพบหญิงสาวชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 หลังพ้นระยะกักตัว 14 วัน แล้วเดินทางไปพักผ่อนในอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีว่า การสอบสวนในสถานที่กักกันโรค จ.สมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่างวันที่ 30 กันยายน – วันที่ 15 ตุลาคม การเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม 7 ตัวอย่าง พบเชื้อโควิด-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส 1 ตัวอย่าง ขณะนี้กำลังรอผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่ตรวจพบในผู้ติดเชื้อและที่ตรวจพบจากผิวสัมผัสบนอุปกรณ์ในห้องฟิตเนส ซึ่งเป็นขั้นตอนของห้องปฏิบัติการ (แล็บ) มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาตรวจ เพื่อให้ได้ผลแม่นยำ ทั้งนี้ ต้องถอดรหัสพันธุกรรมออกมาว่าตรงกับผู้ติดเชื้อรายที่เป็นชาวฝรั่งเศสหรือไม่ หรือเป็นเชื้อที่มาจากใคร
ย้ำผลสอบสวนโรคยังไม่สมบูรณ์
“ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมข้อมูลเชิงลึก แม้เบื้องต้นจะพบเชื้อในสิ่งแวดล้อมที่ฟิตเนสในสถานที่กักตัว แต่ยังต้องรอการถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อให้รู้ว่าการติดเชื้อนั้น ใครติดใคร เกิดจากที่ไหนอย่างไร ทำให้ผลการสอบสวนโรคตอนนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่หากเสร็จครบถ้วนแล้วจะ รายงานต่อนพ.เกียรติภูมิ วงค์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบ และประสานเพื่อเสนอต่อไปยังศบค. ให้ทบทวน มาตรการในส่วน Alternative State Quarantine หรือ ASQ ว่า ต้องปรับเพิ่มมาตรการส่วนใด เพื่อลดช่องโหว่ ด้วยเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เบื้องต้นยังกำชับให้ทำความสะอาดฟิตเนส และปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย” นพ.โอภาสกล่าว
ผลตรวจจนท.สถานกักตัวเป็นลบ
และว่า การตรวจเชื้อโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ภายในสถานกักกันโรค สอบสวนครบแล้วให้ผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งไม่มีความกังวลว่า เจ้าหน้าที่จะนำเชื้อออกจากสถานกักกันไปสู่ชุมชนรอบข้าง ส่วนการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคงเป็นในพื้นที่เกาะสมุยมากกว่าพื้นที่ในสถานกักกันของ จ.สมุทรปราการ โดยกรมควบคุมโรคส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ไปแล้ว แต่จะต้องรอการรายงานผลอย่างเป็นทางการออกมา เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
กลุ่มเสี่ยงสัมผัสสาวฝรั่งเศสไร้เชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในผู้ป่วยเพศหญิงสัญชาติฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด 19 หลังเดินทางมาถึงประเทศไทยและผ่านการกักกันโรคระยะเวลา 14 วันแล้ว ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดสอบสวนโรคอย่างละเอียดและโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยทีมสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวที่เดินทางมาด้วย 2 ราย และเพื่อนต่างชาติที่ขับรถไปรับที่สนามบินอีก 1 ราย ซึ่งทั้ง 3 ราย ไม่มีอาการทางเดินหายใจ ผลตรวจโควิดไม่พบเชื้อ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินเดียวกันรวม 12 ราย พบผู้โดยสาร 1 รายมีอาการทางเดินหายใจ และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจโควิด ผลไม่พบเชื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอาการและรอตรวจหาเชื้อ
เร่งหาผู้สัมผัสเพิ่มมาตรวจ-กักตัว
ด้านโรงพยาบาลเกาะสมุยนำผู้เสี่ยงสูงเป็นลูกเรือและผู้โดยสาร 9 ราย และพนักงานร้านนวด 6 ราย ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลตรวจออกมาเป็นลบไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 15 ราย นอกจากนี้ ทีมสอบสวนโรคสาธารณสุขยังได้ติดตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาวฝรั่งเศสว่า มีบุคคลใดสัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติมหรือไม่ ก็จะนำตัวมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกักตัว 14 วัน
สำหรับการสอบสวนในสถานที่กักกันโรค จ.สมุทรปราการที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่างวันที่ 30 กันยายน-15 ตุลาคม พบผู้ปฏิบัติงาน 68 คน เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 67 ราย ผลไม่พบเชื้อโควิด 19 รวมทั้งผลตรวจเลือดก็ไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด 19 ส่วนการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม 7 ตัวอย่าง พบเชื้อโควิด 19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายในห้องฟิตเนส 1 ตัวอย่าง จึงมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถูกกักกันไม่ครบ 14 วันออกมาแพร่เชื้อในห้องฟิตเนส และพื้นที่ส่วนกลางบางจุด
สมุยคุมเข้มสถานบริการในพื้นที่
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ่อผุด ร่วมกับฝ่ายปกครองเกาะสมุย และ กอ.รมน.ภาค4 พื้้นที่เกาะสมุย ออกประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันโรคโควิด ในสถานบริการในพื้นที่ โดยให้ทางร้านปฏิบัติตามมาตรฐานที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเข้มงวด ในเรื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย บริการจุดล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ สวมใส่หน้ากากอนามัยกับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าใช้บริการ เและให้นักท่องเที่ยวรักษาระยะห่างใช้บริการภายในร้าน
ทั่วโลก213ปท.ขยับใกล้43ล้าน
ขณะที่ความคืบหน้าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังวิกฤติ วันเดียวกัน เว็บไซต์ www.worldometers.info รายงานสถานการณ์ใน 213 ประเทศที่มีการติดเชื้อโควิดว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรวม 42,990,580 ราย เสียชีวิตรวม 1,155,437 ราย รักษาหายรวม 31,707,974 ราย โดยประเทศที่คงอันดับ 1 คือ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสะสม 8,827,932 ราย เสียชีวิตสะสม 230,068 ราย อันดับ 2 อินเดีย ผู้ติดเชื้อรวม 7,866,740 ราย เสียชีวิตรวม 118,593 ราย อันดับ 3 บราซิล ผู้ติดเชื้อรวม 5,381,224 ราย เสียชีวิตรวม 156,926 ราย อันดับ 4 รัสเซีย ผู้ติดเชื้อรวม 1,513,877 ราย เสียชีวิตรวม 26,050 ราย และอันดับ 5 สเปน ผู้ติดเชื้อรวม 1,110,372 ราย เสียชีวิตรวม 34,752 ราย ไทยอยู่ในอันดับ 146 มีผู้ติดสะสม 3,736 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย รักษาหายแล้ว 3,530 ราย
ปธน.โปแลนด์ติดโควิดอีกคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ วัย 48 ปี ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 โดยเลขานุการประจำทำเนียบประธานาธิบดีโปแลนด์ทวิตผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ว่า ประธานาธิบดีดูดาตรวจหาเชื้อโควิดตามคำแนะนำ ผลตรวจออกมาเป็นบวก แต่ประธานาธิบดีดูดายังสบายดีและได้กักตัวแล้ว อย่างไรก็ดี ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีดูดาติดเชื้อโควิดเมื่อไร ผู้นำโปแลนด์เข้าร่วมประชุมด้านการลงทุนที่กรุงทาลลินน์ สาธารณรัฐเอสโตเนีย เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้พบประธานาธิบดีเคอร์สตี คัลจูเลด ของเอสโตเนีย และประธานาธิบดีรูเมน ราเดฟ ของบัลแกเรียด้วย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีดูดากลายเป็นผู้นำประเทศคนล่าสุดที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลซานารู ของบราซิล ติดเชื้อโควิดและรักษาหายแล้ว
เมียนมาสำรองยาเรมเดซิเวียร์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาว่า กระทรวงสาธารณสุขเมียนมารายงานสถิติคนติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ป่วยยืนยันใหม่ 1,423 คน เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเป็นสถิติอย่างน้อย 43,788 คน รักษาหายแล้ว 23,708 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 1,066 คน เพิ่มขึ้น 28 คน ขณะที่รัฐบาลเมียนมายังเปิดเผย เรื่องการนำเข้ายาเรมเดซิเวียร์ 30,000 ชุด จากบริษัท จิเลียด ไซเอนเซส ของสหรัฐ โดยยา 8,000 ชุดมาถึงแล้ว และ 7,000 ชุดเพิ่งเดินทางมาถึง ซึ่งขนส่งด้วยเครื่องบินคาร์โกจากอินเดียและอีก 10,000 ชุดจะเดินทางมาถึงภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ส่วนอีก 5,000 ชุดได้รับบริจาคจากหลายภาคส่วน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเมียนมาเกิดขึ้น หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ ( เอฟดีเอ ) ออกแถลงการณ์ขยายขอบเขตการใช้ยาเรมเดซิเวียร์กับผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะโรคโควิด-19 หลังก่อนหน้านี้จำกัดเฉพาะผู้ป่วยวิกฤติจากโรคดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี