ติดโควิดในที่กักตัว
สาวฝรั่งเศสรับเชื้อ10-12ต.ค.
สธ.เล็งทบทวนมาตรการ
ห้ามออกนอกห้องพัก14วัน
ไทยป่วยอีก7มาจากตปท.
ศบค.เผยไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19ใหม่ 7 ราย กลับจากตปท. ยอดป่วยสะสม 3,743 ราย รักษาหายเพิ่ม13 ราย สธ.เผยผลสอบสวนกรณีสาวฝรั่งเศสคาดติดเชื้อระหว่าง 10-12 ตุลาคม เป็นการติดในประเทศและในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) เตรียมทบทวนมาตรการดูแล ห้ามออกจากห้องพักตลอดระยะ 14 วันที่กักดูอาการ แม้ผลตรวจครั้งที่ 2 เป็นลบ ป้องกันแพร่หรือรับเชื้อเพิ่ม ด้านผู้ว่าฯกาญจนบุรีสั่งเปิดด่านเจดีย์สามองค์ 27 ตุลาคมวันเดียวเท่านั้น เพื่อระบายสินค้านำเข้าส่งออก
ไทยพบติดเชื้อใหม่7ราย
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า วันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในสถานที่กักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) มี 7 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 13 ราย กลับบ้านแล้ว 3,543 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 141 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 59 ศพ ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,743 ราย ประเทศไทย เป็นอันดับที่ 146 ของโลก ทั้งนี้ ไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด–19 จำนวน 7 ราย โดยเดินทางมาจากบาห์เรน 1 ราย ออสเตรีย 1 ราย จอร์แดน 1 ราย การ์ตา 1 ราย อิรัก 1 ราย ตุรกี 1 ราย และคูเวต 1 ราย โดยทั้งหมดเข้าสถานกักกันของรัฐ หรือ State Quarantine ส่วนการติดเชื้อในประเทศไม่มีรายงานเพิ่มเติม
คาดแหม่มฝรั่งเศสติดเชื้อในASQ
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.)แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในไทยว่า รอบเดือนตุลาคมมี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ สถานการณ์พบคนขับรถชาวเมียนมาติดเชื้อเข้ามาที่อ.แม่สอด จ.ตาก ค้นหาผู้สัมผัส และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 1 หมื่นราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม และภายใน 1-2 วันนี้จะครบกำหนด 14 วันแล้ว ขณะนี้มีมาตรการเข้มข้นในการห้ามคนเข้ามาทางชายแดน การเข้มงวดการขนส่งสินค้า อีกเหตุการณ์คือ กรณีหญิงฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ขณะนี้ผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะสมุย จากการสอบสวนโรคมั่นใจมากขึ้นว่า น่าเป็นการติดเชื้อในประเทศ และเป็นไปได้ที่เกิดจากการสัมผัสเชื้อในสถานที่กักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine:ASQ) คาดว่าช่วงเวลาติดเชื้อน่าจะเป็นช่วงวันที่ 10-12 ตุลาคมที่ผ่านมา และไม่น่าจะแพร่เชื้อต่อในโรงแรม เพราะหญิงรายนี้ออกมาวันที่ 15 ตุลาคมก่อนมีอาการวันที่ 17 ตุลาคม
เล็งทบทวนมาตรการในสถานที่กักตัว
นพ.ธนรักษ์กล่าว ต่อว่า ขณะนี้การสอบสวนโรคยังเน้นหาสาเหตุการติดเชื้อนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ถ้าเกิดขึ้นที่สถานที่กักกันจริง ต้องทบทวนมาตรการ และเข้มงวดในส่วนที่อาจก่อให้เกิดการแพร่โรคได้ เพราะเป็นจุดที่ทำให้หลายประเทศเกิดการระบาดในสถานที่กักกัน และต่อมาระบาดต่อเนื่องในชุมชน เช่น รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย ดังนั้น การกำกับให้สถานกักกันป้องกันควบคุมโรคเต็มที่ เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและดูแลเคร่งครัด หากทำตามมาตรการ ทำตามระดับความเสี่ยงสามารถจัดการปัญหาได้อย่างดีมั่นใจว่าจัดการการระบาดโรคในสถานที่เดียวกันได้ดี ขณะนี้แนวทางในASQ ประสานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)ให้งดนำคนออกนอกห้องก่อน จากเดิมให้ออกจากห้องได้ หลังผลตรวจครั้งที่ 2 เป็นลบ แต่ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคไม่ให้ออกนอกห้องเลย และทบทวนมาตรการสำคัญ
สรุปกลุ่มสัมผัสแหม่มฝรั่งเศส120คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพบเชื้อในฟิตเนสของASQในจ.สมุทรปราการ จำเป็นต้องให้คนที่ใช้ฟิตเนสกักตัวต่ออีก 14 วัน หรือไม่ นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า โดยหลักแล้วการสอบสวนโรคจะระบุผู้สัมผัสผู้ป่วยในสถานที่กักกันทางเลือกแห่งนี้ และจะแบ่งกลุ่มผู้สัมผัสตามระดับความเสี่ยง และจัดการตามความเหมาะสม เช่น หากสัมผัสเสี่ยงสูงต้องกักตัวต่อ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำต้องเฝ้าระวัง และจำกัดพื้นที่ ทั้งหมดต้องดูตามความเหมาะสมแต่ละกรณี สำหรับการติดตามผู้สัมผัสหญิงฝรั่งเศส สรุปเบื้องต้นของทีมปฏิบัติการที่เกาะ สมุยรายงานว่า มีผู้สัมผัสทั้งหมด 120 ราย แบ่งเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 40 ราย ประกอบด้วยคนในครอบครัว 2 ราย ผู้สัมผัสในชุมชน 24 ราย ผู้โดยสารเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกัน 12 คน และแท็กซี่ 2 คน ผลตรวจรอบแรกเป็นลบ 27 ราย อีก 13 รายอยู่ระหว่างรอผลและติดตามตัว และผู้สัมผัสเสียงต่ำ 80 คน ยังไม่มีใครมีอาการ และยังค้นหาผู้สัมผัสต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ ยังปิดร้านนวดและร้าน La Bohemia Beach Lounge
ย้ำไทยเจอคนติดเชื้อใหม่ไม่แปลก
นพ.ธนรักษ์กล่าวอีกว่า ไทยมีโอกาสเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าผู้ป่วยมาจากต่างประเทศตามแนวชายแดน เช่น เมียนมา และมาเลเซีย หรือจากต่างประเทศบินเข้ามาและเข้าสู่สถานที่กักกัน ถ้าเจอผู้ติดเชื้อก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ หรือต้องกังวล แต่สิ่งสำคัญคือ ให้ตรวจเจอผู้ป่วยได้เร็ว ควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้กระจายวงกว้างและสนับสนุนให้เปิดประเทศเปิดเศรษฐกิจได้กว้างขวางมากขึ้นอย่างปลอดภัย สร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพสังคมและเศรษฐกิจ ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันตัวเอง หลีกเลี่ยงไปในที่คนแออัด ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ
เปิดด่านเจดีย์สามองค์27ต.ค.วันเดียว
วันเดียวกัน นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ออกประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 43.6/2563 เรื่อง มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าอุปภคและบริโภคระบุ สาระสำคัญสรุปว่า หลังจ.กาญจนบุรีออกประกาศระงับใช้ช่องทางเข้าประเทศไทยที่จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สมองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมียนมา ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไม่สามารถส่งออกและนำเข้าสินค้าไปเมียนมาได้
ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ตามหลักมนุษยธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีจึงออกประกาศผ่อนผันมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต โดยให้ส่งออกและนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภค เฉพาะวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.เท่านั้น และอนุญาตให้เปลี่ยนถ่ายสินค้า เปลี่ยนตัวพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถ รวมไม่เกิน 2 คน ที่จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สมองค์ ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคโควิด - 19 จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ต้องปฏิบัติตามมาตรการกระทวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี