‘โมลาเบ’จ่อหอบฝนเติมเขื่อน ‘ผู้ว่าฯโคราช’เตือน 14 อำเภอเฝ้าระวังน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(27 ตุลาคม 2563) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา (ผวจ.นครราชสีมา) พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด , นายจีรศักดิ์ แสงหอย นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ้านตะกุดขอน หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน จำนวน 132 หลังเรือน ที่ประสบกับน้ำจากลำน้ำมูลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 1.50 เมตร เป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว จนไม่สามารถพักอาศัยได้ บางส่วนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ กางเต็นท์นอนบริเวณพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำท่วม โดยทาง อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้นำรถสุขา อาหารน้ำดื่ม และติดตั้งไฟส่องสว่างให้กับชาวบ้าน
นายวิเชียร กล่าวว่า ในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน 909 หลังคาเรือน ประชาชนกว่า 2 พันคนได้รับผลกระทบ ซึ่งที่บ้านตะกุดขอน ถือว่าสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง น้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน โดยมีหน่วยกู้ภัยฮุก31 และหน่วยทหารจากกองพลพัฒนาที่ 2 มาคอยให้ความช่วยเหลือ
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า สำหรับการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนลำตะคอง เพื่อรองรับกับพายุโมลาเบ ที่จะเข้ามาในพื้นที่วันที่ 28-29 ตุลาคม นี้ เขื่อนลำตะคองมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนวันละ 8 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่จากรายงานมีน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลลงสู่เขื่อนลำตะคอง 1 ล้าน ลบ.ม. จึงต้องมีการปรับแผนในการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคอง จากเดิม 8 แสน ลบ.ม. เป็น 1.6 ล้าน ลบ.ม.
“การระบายน้ำออกก็มีการควบคุมและจับตามองพื้นที่ท้ายเขื่อนลำตะคอง ว่า มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือไม่ ช่วงนี้จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคอง เนื่องจากจากการคาดการณ์ พบว่า พายุโมลาเบ หากไม่มีการเปลี่ยนทิศทาง จะมีน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนลำตะคองประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคองเต็มความจุที่ 370 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 350 ล้าน ลบ.ม. จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งระบายน้ำออกในช่วงนี้ หากพื้นที่ท้ายเขื่อนลำตะคอง มีผลกระทบจากการระบายน้ำวันละ 1.6 ล้าน ลบ.ม. จะสั่งการให้มีการปรับลดปริมาณการระบายน้ำออกทันที เพื่อไม่ให้ประชาชนท้ายเขื่อนได้รับความเดือดร้อน” นายวิเชียร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร ยังได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เรื่อง “แจ้งเตือนการระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิง” ว่า ด้วยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ว่า จะระบายน้ำออกจากเขื่อนลงลำน้ำธรรมชาติ เพื่อพร่องน้ำรองรับสถานการณ์พายุโมลาเบ โดยระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคองออกไม่เกินวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร และสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง พบว่า มีปริมาณน้ำระดับกักเก็บ 156 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 101% และจะมีการระบายน้ำไหลลงคลองธรรมชาติ จะส่งผลให้ลำน้ำสาขามีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยมวลน้ำทั้งหมดจะไหลไปที่ลำน้ำมูล ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และน้ำไหลหลากในพื้นที่ จึงได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริม 2 ฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่งในเขตลุ่มน้ำลำตะคอง ลำเชียงไกร ลำบริบูรณ์ ลำพระเพลิง และลำน้ำมูล ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา โนนไทย โนนสูง ปักธงชัย โชคชัย เฉลิมพระเกียรติ จักราช พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง ได้รับทราบ และตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
โดยหากทางอำเภอประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ให้สั่งอพยพประชาชนทันที และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะยุติ โดยทุกพื้นที่ต้องรายงานสถานการณ์ และผลการดำเนินการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทราบโดยตรง
ทั้งนี้ ประกาศแจ้งเตือนของจังหวัดนครราชสีมาดังกล่าว เป็นการเตรียมรับมือกับพายุโมลาเบ ที่คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างในวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี