หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเคาะจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กำหนดวันที่สมัครระหว่าง 2-6 พฤศจิกายน 2563 วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัคร วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้ง/ที่เลือกตั้ง และประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นวันเลือกตั้งนั้น ส่งผลให้บรรดาผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งตำแหน่ง “สมาชิกสภาอบจ.-นายกอบจ.” เริ่มเคลื่อนไหวและคึกคักขึ้นตามกระแส.!
จับตามองมายัง สนามแข่งขันรับการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดตรัง เริ่มมีสีสันการเคลื่อนไหวไปตามปี่กลองการเมืองลั่นฆ้อง รับการเลือกตั้ง อย่างไรก็สนามเป็นที่รับรู้กันมานานว่า สนามการเมืององค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เป็นเขตยึดครองของตระกูล “หลีกภัย” โดยมี “นายกิจ หลีกภัย” พี่ชายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังผูกขาดมาโดยตลอดมานานถึง 25 ปี
แต่มาถึงยุคสมัยสังคมเริ่มแปรเปลี่ยน ทำให้กระแสการเมืองมองว่าหาก “นายกิจ หลีกภัย” ยังลงคงลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ จะสามารถรักษาเก้าอี้ได้อีกหรือไม่ คอการเมืองจังหวัดตรังไม่กล้าฟันธง จะด้วยเหตุผลหรือปัจจัยใดก็ตาม แต่มา ณ วันนี้ “นายกิจ หลีกภัย” ที่คร่ำหวอดบนเวทีการเมืองท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง มานานกว่า 20 ปี อายุอานามร่วงโรยไปตามวัยกว่า 80 ปี สภาพร่างกายที่เคยเข้มแข็งสุขภาพก็ย่อมถดถอยไปตามวัยและกาลเวลา.!
ที่สุดท้ายก็คือ “นายกิจ หลีกภัย” ประกาศวางมือไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง และส่งไม้ให้ตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” รับในตำแหน่งหัวหน้า “ทีมกิจปวงชน” คนต่อไป.!
ที่ผ่านมา ตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” มีความผูกพันและสัมพันธ์อย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะส่วนตัวและการเมืองกับตระกูล “หลีกภัย” มายาวนาน โดยเฉพาะกับ “นายชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา เป็นอย่างมาก ทางการเมืองนับว่าตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” นับว่ามีบทบาทเป็นทั้งกำลังหลักและเป็นกำปั่นด้านการเงินในการสนับสนุนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรังมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ บุตรชายคนที่ 6 ของตระกูล ก้าวสู่สังเวียนนักการเมืองดำรงตำแหน่ง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง” หลายสมัย แต่มาประสบเหตุถูกเว้นวรรคทางการเมือง จากนั้นผลักดัน ให้บุตรสาว “นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” สวมเสื้อแม่พระธรณีบีบมวยผม“พรรคประชาธิปัตย์” เข้าสภาหินอ่อน ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์หญิงคนแรกของจังหวัดตรังคนต่อไป
ก่อนหน้านี้พี่ชายคนที่ 2 ของตระกูล “นายสมศักดิ์ โล่สถาพรพิพิธ” ยังดำรงตำแหน่งอดีต “สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดตรัง” อีกด้วย จึงตอบคำถามได้ว่า “โล่สถาพรพิพิธ” เป็นตระกูลนักการเมืองอีกครอบครัวหนึ่งที่ถูกจับตามองในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง จากสนามใหญ่ อดีต “สมาชิกวุฒิสภา” นายสมศักดิ์โล่สถาพรพิพิธ” และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง “นายสมชายโล่สถาพรพิพิธ” และ “นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์
จนมาขณะนี้ สนามท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง “นายบุ่นเล้ง หรือโกเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” แต่งหน้าประแป้งเตรียมตัวเข้าสู้เวทีแข่งขัน “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” ที่กำลังโหมกระแสและเป็นที่จับตามองจากคอการเมืองท้องถิ่นเมืองตรังว่า “ตระกูลโล่สถาพรพิพิธ” จะเข้ามาจับจองครองตำแหน่งสนามการเมืองท้องถิ่นได้อีกคนหรือไม่ยังไม่มีคำตอบ.?
ปรอทของความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งตำแหน่ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” เริ่มร้อนระอุเป็นเงาตามตัว ที่มุ่งเป้าฉายภาพไปยัง “นายบุ่นเล้ง หรือโกเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” บุตรชายคนที่ 4 ของตระกูลโล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีม “กิจปวงชน” ลงสู้ศึกชิงตำแหน่ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” พร้อมนำนาวาลูกทีม 30 เขต ผ่าคลื่นมรสุมการเลือกตั้งให้ได้ครบทุกเขต อย่างไรก็ตาม บรรดาคอการเมืองยังไม่สามารถคาดเดาหรือทุบโต๊ะได้ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นสรุปหลังวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง.! ชนิดจะต้องไม่กะพริบตา.?
ดังนั้นแสงสป็อตไลท์เลือกตั้ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” ฉายมายังตัว “นายบุ่นเล้ง หรือ โกเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” ส่งผลให้เกิดความสนใจทั้งประวัติความเป็นมาที่จะได้รับการเปิดเผยและพลิกปูมหลังตัดสินใจสู่สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เป็นที่น่าสนใจของบรรดาคอการเมือง เช่นกัน
พลิกปูมประวัติ “นายบุ่นเล้ง หรือ โกเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” เป็นคนตรังโดยกำเนิด บิดา-มารดา หอบเสื่อผืนหมอนใบดั้นด้นมาจากถิ่นดินแดนโพ้นทะเลประเทศสาธารณประชาธิปไตยประชาชนจีน และมาตั้งรกรากที่จังหวัดตรัง มีพี่น้องจำนวน 8 คน “นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” เป็นบุตรชายคนที่ 4
เกิดวันที่ 1 มกราคม 2497 ปัจจุบันอายุ 66 ปี สมรสกับ “นางกร โล่สถาพรพิพิธ” มีบุตร-ธิดา 4 คน จบการศึกษาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต(ปริญญาโท) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาเฉลิมพระเกียรติวิทยาเขตจังหวัดตรัง รู้จักกันในนามนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ที่ประกอบอาชีพกระทั้งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากอีกคนหนึ่ง
ด้วยบุคลิกภาพส่วนตัว อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส แม้ว่าวัยจะล่วงเลยมาพอสมควร แต่นายบุ่นเล้ง ยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” อย่างเต็มตัว
นายบุ่นเล้ง เผยเคล็ดลับเล็กๆ ถึงการใช้ชีวิตประจำวันว่า ตนจะตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่งทุกวัน จากนั้นจะไปออกกำลังกายด้วยการเดินพร้อมภรรยาวันละประมาณ 3-4 กม. จนถึง 6 โมงเช้า กลับบ้านอาบน้ำจิบกาแฟ แต่งตัว จากนั้นจะดูแลกิจการที่ต้องรับผิดชอบ แต่หากวันไหนว่างพบปะพรรคพวกเพื่อนฝูงจะไปสังสรรค์ การใช้ชีวิตครอบครัว ภรรยาจะดูแลกิจการอุปกรณ์จำหน่ายก่อสร้าง ส่วนตนจะดูแลกิจการด้านรับเหมาทั้งหมดลูกๆ ทั้ง 4 คนจบการศึกษาทั้งหมดทำงานดูแลกิจการในครอบครัวด้วย
“คติการทำงาน เป็นคนทำงานในเชิงรุก เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง การบริหารงานลูกน้องจะถือเสมือนคนในครอบครัว ที่ผ่านมา ตนมีความภาคภูมิใจว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านครอบครัวที่มีความอบอุ่น และธุรกิจที่ประกอบกิจการ แม้แต่ช่วงที่อยู่ในระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19กิจการไม่กระทบงานยังคงไปได้ดี พี่น้องในครอบครัว 8 คนมีความรักต่อกัน แม้ว่าอาจจะมีความคิดไม่เหมือนกันบ้างถือเป็นเรื่องปกติ พี่น้องก็คือพี่น้องที่จะต้องไปด้วยกัน เพราะที่ผ่านมาลำบากมาด้วยกัน พี่ก็ต้องดูแลน้อง คติชาวจีนถือว่า เมื่อพ่อแม่ไม่มี พี่คนโตจะต้องรับภาระดูแลครอบครัว”
นายบุ่นเล้ง บอกว่า หลังจากที่ตัดสินใจสู่สนามการเมืองท้องถิ่น แล้วกิจการในครอบครัวจะมอบหมายให้ลูกชายเข้ามาสืบต่อดูแล ตนจะคอยดูแลให้คำปรึกษาเวลามีปัญหา แม้ว่าก่อนหน้านี้ลูกๆ จะเข้ามาช่วยบ้าง แต่ต่อไปจะต้องเข้ามาเต็มตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้เข้ามาทำงานสร้างสมประสบการณ์ให้กับตัวเอง ช่วงว่างๆ เช้า-เย็นรับประทานอาหารด้วยกันจะได้แนะนำ เมื่อเข้าสู่สนามการเมืองแล้ว ต่อไปเชื่อว่างานสังคมจะมีมากขึ้นซึ่งปกติก็มีมากอยู่แล้วด้วยเหตุผลว่า หลานสาวก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พี่ชายก็เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา 2 สมัย น้องชาย เป็นอดีตสส.มา 4-5 สมัย เพราะฉะนั้นงานช่วยเหลือชาวบ้านสังคมก็ต้องทำกันอย่างหนัก ตนยอมรับว่า การลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น
“จนถึงวันนี้ ผมมีความพร้อมในทุกๆ ด้านเต็มร้อย ส่วนผู้สมัครสังกัดทีมกิจปวงชนแต่ละเขตเลือกตั้งมอบหมายให้น้องชาย นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ เป็นผู้จัดการในการพิจารณาคัดเลือก เนื่องจากคร่ำหวอดในสังเวียนการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศมายาวนาน และคงได้ผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถทั้งสมาชิกสภาฯทีมกิจปวงชนเดิม และผู้สมัครคนใหม่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมกิจปวงชน เป็นคนยึดหลักสมานฉันท์ พูดจาเข้าใจกัน ทุกคนที่อาสาเข้ามาทุกคนก็หวังที่จะเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น สร้างจังหวัดตรังให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ในเมื่อเรามีอุดมการณ์เดียวกันคงต้องทำงานได้เหมือนๆ กัน อย่างไรก็ตาม ทีมจะใช้ในการลงสมัครในสมัยนี้ยืนยันว่าคงใช้ทีมกิจปวงชนต่อไป»
สนามการเมืองท้องถิ่นเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง แม้ว่าขณะจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเพียงทีมเดียว แต่เมื่อฆ้องการเมืองลั่นหลังจากที่ห่างเหินการเลือกตั้งมานาน และก่อนที่จะถึงวันรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2563 จะมีความเคลื่อนไหวของขุนพลทั้งอิสระและสังกัดพรรคการเมืองคึกคักขึ้นตามกระแส ส่วนจะมีขุนพลสมัครชิงตำแหน่งมากน้อยแค่ไหนต้องติดตามกันอย่างอย่ากระพริบตา.!!!
จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี