จากการที่เราชาวแอปเตอร์ได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่อาคารใหม่ ชื่อว่า อาคารนวัตกรรม ความจริงผมเคยได้คุยกับท่านเลขาธิการ สศก. มาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงที่มีการประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ที่เมืองพุกาม ประเทศเมียนมา ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ว่าเราน่าจะมีพิธีการเปิดออฟฟิศทำงานของแอปเตอร์ดีไหม ซึ่งแล้วแต่ท่านเลขาฯ เพราะถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใหญ่ระดับกระทรวงเกษตรฯ ได้รับรู้รับทราบ รวมทั้งเป็นการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการทำงานของแอปเตอร์ ซึ่งในการนี้ ในที่ประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ผมเองก็ได้มีการเรียนให้ที่ประชุมทราบถึงการอนุเคราะห์ช่วยเหลือของรัฐบาลไทยต่อองค์กรแอปเตอร์ และได้มีการประกาศว่ามีแผนจะจัดประชุมย่อยที่เรียกว่า Working meeting ในช่วงปลายปี ซึ่งถ้าจะมีการเปิดออฟฟิศ ก็จะได้ถือโอกาสจัดเป็นอีเวนท์เดียวกันไปเลย จะได้มีแขกเหรื่อสักขีพยานจากประเทศสมาชิกแอปเตอร์มาพร้อมหน้าพร้อมตา
ผมจำได้ว่าแอปเตอร์เคยมีการประชุมคณะมนตรีครั้งที่ 1 ในประเทศไทย ในราวปี 2556 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว แล้วก็เคยมีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย (ถ้าจำไม่ผิด) มาทำพิธีเปิดสำนักงานเดิมที่ชั้นสองของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรมาแล้ว ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ครั้งนี้ก็ควรทำอีก เพราะถือเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย แต่ทว่าจนป่านนี้เดือนต.ค.เข้าไปแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าเจ้าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะหยุดระบาดหมดสิ้นไปง่ายๆ การเดินทางไปมาระหว่างประเทศยังทำไม่ได้เลย แม้แต่งานการแจกจ่ายข้าวช่วยเหลือที่ผมเดินทางไปเข้าร่วมประจำยังต้องงดเว้น พิจารณาดูแล้วคงจะจัดประชุม Working meeting ในประเทศไทยค่อนข้างยากมาก จะมีก็อาจต้องใช้วิธี Teleconference อย่างที่เคยจัดกัน แผนการเปิดออฟฟิศแอปเตอร์ก็คงต้องแล้วแต่ท่านเลขาธิการ สศก แหละครับ ส่วนผมเองจะมีหรือไม่มีก็ได้
ความจริงการได้สถานที่ทำงานใหม่ของแอปเตอร์ ถือเป็นเครดิตของฝ่ายไทยแบบเต็มๆ เริ่มตั้งแต่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ซึ่งถือเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับแอปเตอร์มากที่สุด เพราะท่านเลขาธิการท่านเป็นผู้แทนประเทศไทยที่ประกอบเป็นมนตรีแอปเตอร์ หรือ APTERR Council กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่เสาเศรษฐกิจของอาเซียน รวมทั้งประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ (Host) อันเป็นที่ตั้งของแอปเตอร์ เพราะจากที่เคยได้กล่าวไปแล้ว องค์กรแอปเตอร์ตอนที่จะตั้งขึ้น มีหลายประเทศแย่งกันเป็นเจ้าภาพ เช่น อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ แต่ในที่สุดเหล่าประเทศสมาชิกในคราวประชุมมนตรีแอปเตอร์ที่ประเทศ สปป.ลาว ต่างยกมือเห็นชอบให้ตั้งในประเทศไทย ด้วยเพราะเห็นว่าประเทศไทยเป็นเจ้ายุทธจักรในการผลิตและส่งออกข้าวของโลก ซึ่งลึกๆ ก็คงหวังว่าประเทศไทยจะแสดงความเป็นพี่เบิ้มในเรื่องข้าวเพื่อช่วยเหลือเจือจานเหล่าประเทศผู้ขาดแคลนและนำเข้าข้าว ซึ่งบังเอิญก็เป็นประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนด้วยกันเสียด้วย ที่บอกว่าเป็นเครดิต ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ “ได้หน้า” นั่นแหละครับ เพราะเวลาไปนำเสนอเรื่องนี้ในที่ใดๆผมก็จะไม่ลืมที่จะโม้ตลอดว่าแอปเตอร์เราจะได้ที่อยู่อาศัยใหม่ แถมยังฉายภาพอาคารอันสวยหรูของ สศก.ให้ดู ทำให้ทุกครั้งบรรดาผู้แทนประเทศสมาชิกพากันปรบมือกับประเทศไทยกันขรมเลย จนท่านผู้แทนไทยที่อยู่ในที่นั้นต้องกล่าวขอบคุณอยู่เสมอๆ มิได้ขาด ใช่สิครับในฐานะที่จีเอ็ม ก็เป็นคนไทย ผมก็เลยพลอยภูมิอกภูมิใจไปด้วยทุกครั้งเช่นกัน
เสียดายนะครับ ผมวางแผนไว้แล้ว ถ้ามีการประชุม Working meeting และมีพิธีเปิดสำนักงานโดยท่านรัฐมนตรีใครก็ได้สักคน ผมกะจะทำให้แขกเหรื่อที่มาประชุมประทับใจและไม่รู้ลืมแอปเตอร์เลย เพราะจริงแล้วที่ผ่านมา ผมว่าสมาชิกผู้ขาดแคลนข้าวต่างพอใจและซึ้งใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากแอปเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และแม้แต่ประเทศเวียดนาม จนเวลาผมหรือเจ้าหน้าที่แอปเตอร์ไปเยี่ยมทีไรได้รับการต้อนรับอย่างดี แม้ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนแอปเตอร์คนไทยเป็นน้องซึ่งเพิ่งจบปริญญาตรีใหม่ๆ หน้าตายังดูละอ่อนมาก แต่รองผู้บริหารของประเทศหนึ่ง ซึ่งเทียบแล้วเท่ากับระดับรองปลัดกระทรวงทีเดียวยังต้องมารอรับที่สนามบินเลยนะครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี