พายุ‘โมลาเบ’ถล่มไทย
ฝนตกหนักเหนือ-อีสาน
ภาคกลาง-กทม.ไม่รอด
ปภ.เผย6จว.น้ำยังท่วม
กรมอุตุฯเตือน พายุ“โมลาเบ”กระทบไทยตอนบนเหนือ-อีสาน-กลาง-กทม.ฝนตกบริเวณกว้าง-ตกหนักบางแห่ง เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เคลื่อนเข้าถล่มอุบลฯประเดิมด้าน ปภ.สรุปยัง6 จังหวัดที่มีพื้นที่น้ำท่วม เร่งระบายน้ำ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือน เรื่องพายุไต้ฝุ่น ‘โมลาเบ’(พายุระดับ5 )มีผลกระทบจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2563ฉบับที่ 7ว่าพายุไต้ฝุ่น‘โมลาเบ’ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกวางงาย ประเทศเวียดนามห่างจากทางด้านตะวันออกของ จ.อุบลราชธานีประมาณ400 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ จ.อุบลราชธานี ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง มีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรง ส่งผลทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง
ทั้งนี้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ช่วงวันที่ 28-29 ตุลาคมนี้ ภาคเหนือ จ.น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาครรวมทั้ง กทม.และปริมณฑลภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชั่น) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 34 จังหวัด ได้แก่ จ.อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรีกาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 140 อำเภอ 530 ตำบล 2,299 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 88,346 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย (จันทบุรี ตรัง ปราจีนบุรี จังหวัดละ 1 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย) ผู้บาดเจ็บ 3 ราย (สิงห์บุรี) ผู้สูญหาย 1 ราย
ปัจจุบัน ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ 6 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี
นครปฐม และสุพรรณบุรี โดยปภ.ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้ง เครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังจุดอพยพ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้านทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังตลอดจนเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี