29 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดลาดตระเวนเฉพาะกิจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก. 3 กกล.สุรนารี เจ้าหน้าที่ทหารที่ 2601 ร่วมกันลาดตระเวน พื้นที่ป่าแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ขณะไปถึงป่าบริเวณทิศตะวันตก “พลาญจาก” เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ทับซ้อนเขตป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี “ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา” ท้องที่ ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 300 เมตร พบว่ามีการลักลอบตัดไม้ตะเคียน
โดยเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นว่า ในขณะนั้นยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวกัมพูชา อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการยิงเปิดฉากขึ้นฟ้า เป็นการแจ้งเตือนเพื่อจะเข้าจับกุม แต่กลุ่มคนร้ายชาวกัมพูชาได้ยิงตอบโต้กลับมา จึงเกิดเกิดการยิงต่อสู้กันเสียงปืนดังสนั่นป่า กินเวลาประมา 5 นาที เป็นเหตุให้ร้อยโท ศิวะเทพ บุญล้อม เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ถูกยิงบริเวณหลังด้านซ้าย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนที่จะรีบนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ถอยร่นไปชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าจับกุมชาวกัมพูชาได้ 1 คน พร้อม อาวุธปืนอาร์ก้า 1 กระบอก เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ตรวจสอบรอบบริเวณ พบว่า มีไม้ตะเคียนทองถูกตัดโค่น 1 ต้น ไม้ตะเคียนทองที่แปรรูปแล้ว 35 แผ่นปริมาตร 2.83 ลูกบาศก์เมตร โดยชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาที่ควบคุมได้ออกจากพื้นที่ป่าทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามนำกำลังเข้ามาชิงตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563
หลังเกิดเหตุ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี และนายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ได้ลงพื้นที่ สอบปากคำ นายแง็น โสแว็ย อายุ 50 ปี อยู่บ้านโอว์กระยูง ตำบลตอเปียงไปร อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยผู้ต้องหาชาวกัมพูชา อ้างว่า ตนไม่ได้เป็นคนตัดโค่นไม้ และ ไม่ได้ใช้อาวุธปืน อาก้าร์ยิงเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด โดยปืนก็ไม่ใช่ของตน ซึ่งที่ผ่านมาตนเป็นเพียงคนรับจ้างมาแบกไม้ รวมทั้งชุดที่ตนสวมใส่ ก็เพียงซื้อชุดทหารกัมพูชามา เพื่อสวมใส่อำพรางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยหากเกิดการปะทะ ยืนยันไม่ได้เป็นทหารกัมพูชาแต่อย่างใด นายแง็น ให้การต่อว่า พวกตนทั้งหมดมากัน 5 คน และ มี 2 คน เป็นทหารกัมพูชา ซึ่งจะทำหน้าที่ คอยคุ้มกันการตัดไม้ อีก 2 คน จะทำหน้าที่โค่นต้นไม้ และแปรรูป ส่วนตนมีหน้าที่แบกไม้เท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้กับผู้ต้องหา เตรียมนำชุดที่สวมใส่ไปตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานเพื่อเป็นพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหานายแง็น โสแว็ย ว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11,48,69, พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53,55(5) พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ,พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490, ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ก่อนที่จะนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี