30 ตุลาคม 2563 นายประวิต เอราวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งปีนี้มีความเปลี่ยนแปลงโดย ในส่วนของการสอบภาค ก ความรู้ทั่วไป ใช้ข้อสอบที่ได้มาตรฐานเดียวกัน การสอบของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ส่วนภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งเทียบเคียงกับมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา
ขณะที่การสอบภาค ค ถือมีปรับเปลี่ยนมากที่สุด จากเดิมที่เป็นการสัมภาษณ์อย่างเดียว ก็ได้มีการกำหนด ความเหมาะสมกับตำแหน่งวิชาชีพ และการปฏิบัติงานในสถานศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบการประเมิน 3 ส่วน คือ คุณลักษณะส่วนบุคคล จากการสัมภาษณ์ 25 คะแนน การพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ที่ประเมินจากแฟ้มสะสมงาน 25 คะแนน และส่วนที่ 3 ความสามารถด้านการสอน 50 คะแนน ประเมินจากการสอบสาธิตการปฏิบัติการสอน โดยมีการบันทึกภาพและเสียงในรูปแบบวิดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน
นายประวิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากมีการสอบเพื่อคัดเลือกครูผู้ช่วยไปเรียบร้อยแล้ว ก.ค.ศ. ได้ทำการวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ โดยได้สอบถามความคิดเห็นผู้เข้าสอบปฏิบัติการสอน หลังการสอบ ภาค ค จำนวน 10,376 คน พบว่าผู้ตอบกลับแบบสอบถามความคิดเห็นเกินร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการสอบ ภาค ค รูปแบบใหม่
“ก.ค.ศ.จะนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาหลักเกณฑ์การคัดเลือกบุคคลเข้าสู่วิชาชีพครูให้เข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก ดังนั้นครูต้องมีความสามารถทางวิชาการ และต้องมีคุณลักษณะที่เหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็ก และปรับตัวได้กับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นรูปแบบการคัดคนเข้าสู่วิชาชีพจึงยังต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ครูที่เก่ง ดี มีคุณภาพสูงตามนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และการปรับหลักสูตรการผลิตครู ซึ่งตนได้ประสานกับสถาบันฝึกหัดครู คือสภาคณะบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) แล้ว ในเดือนหน้าจะประชุมร่วมกัน เพื่อหารือกันระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้เพื่อหา แนวทางการปรับหลักสูตรการผลิตครู เช่น ปรับเนื้อหาที่สอนเพื่อให้สามารถผลิตครูได้สอดคล้องกับการเรียนการสอนในปัจจุบัน และการเรียนการสอนของสถาบันผลิตครูจะต้องเน้นให้มีการฝึกปฏิบัติการสอนต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่เรียนปี 1 เพื่อให้นักศึกษามีความเชี่ยวชาญมีความสามารถในการสอน และสามารถสอนได้ทันทีเมื่อเรียนจบโดยไม่ต้องฝึกปฏิบัติการสอนอีก” นายประวิต กล่าว
นายประวิต กล่าวต่อว่า ก.ค.ศ. ได้ประสานกับ สพฐ. เพื่อขอข้อสอบ ภาค ก และภาค ข มาวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ และความยากง่าย จุดใดที่มีผู้สอบผ่านมากหรือน้อย เพื่อนำมาพัฒนาคลังข้อสอบต่อไป เนื่องจากนายณัฏฐพล ให้นโยบายว่า ในอนาคต ก.ค.ศ. อาจจะต้องพัฒนาเป็นศูนย์จัดสอบคัดเลือกเอง เพื่อให้การสอบภาค ข สามารถสอบได้ทั้งปี ไม่จำเป็นต้องรอสอบพร้อมกันเป็นมหกรรมเหมือนที่ผ่านมา และต่อไปหากโรงเรียนไหนขาดครูก็สามารถรับสมัครและสอบ ภาค ค ที่โรงเรียนได้เลย โดยไม่ต้องรอสอบพร้อมกันทั่วประเทศ เพราะปี 2564 การสอบ ภาค ก เพื่อคัดเลือกครู จะให้ไปสอบกับ ก.พ. ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท สอบผ่านภาค ก ตามแนวทางของ ก.พ. ซึ่ง ศธ.เป็นกระทรวงที่สองที่เริ่มดำเนินการ ต่อจากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี