สั่งตร.ดูแลเข้มทั่วประเทศ
ตลอดเทศกาลลอยกระทง
นายกฯ ขอให้คนไทยเที่ยว “ลอยกระทง” อย่างไม่ประมาท ใส่หน้ากากป้องกันโควิด-19 ตำรวจวางมาตรการเข้ม พร้อมดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน-นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ขณะที่ กทม.กำหนดจัด งานในพื้นที่หลัก 2 จุด คือ สะพานพระราม8-คลองโอ่งอ่าง รวมทั้ง 30 สวนสาธารณะรอบกรุง
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ว่า เป็นเรื่องที่ดีในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชมของชาวต่างประเทศ แต่ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่เราป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ดังนั้น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะจัดเทศกาลลอยกระทง ขอให้รักษามาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เราทำได้ดีมาโดยตลอด ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ และการรักษาระยะห่าง นอกจากนี้ รณรงค์ให้ใช้วัสดุย่อยสลายง่าย ใช้กระทงที่มาจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อลดภาวะโลกร้อน รวมถึงใช้ 1 กระทง 1 ครอบครัว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยากให้ทุกคนตระหนักในการป้องกันโควิด-19 ไปท่องเที่ยวอย่างไม่ประมาท ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก ตร.) เปิดเผยว่าในวันลอยกระทง เป็นวันที่ประชาชนนิยมออกมาท่องเที่ยว ลอยกระทง ลอยโคมไฟประทีป ตามแม่น้ำ ลำคลอง และสวนสาธารณะ รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังตรงกับ วันฮาโลวีน ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปีของชาวตะวันตกในช่วงกลางคืนอีกเช่นกัน จะมีชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย นักท่องเที่ยว รวมถึงชาวไทยบางส่วน ออกมาร่วมกิจกรรมรื่นเริงกันเป็นจำนวนมาก โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้มีหนังสือสั่งการไปยังหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศให้ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจร รักษาความปลอดภัย และดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความสุข และปลอดภัยไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ ยังให้หน่วยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ออกตรวจตราตามสถานที่ที่มีการจัดงานลอยกระทงและฮาโลวีน เช่น สถานบันเทิง ชุมชน สวนสาธารณะที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น ตู้กดเงินสด (ATM), ร้านสะดวกซื้อ และสถานีบริการเชื้อเพลิง เป็นต้น รวมไปถึงการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลต้องสงสัย บุคคลพ้นโทษ และเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และให้ดูแลป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ ตรวจความเรียบร้อยของโป๊ะ หรือท่าเทียบเรือ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนยังสามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ด้วยข้อปฏิบัติ 3 ห้าม คือ 1.ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย ในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน (ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท) 2.ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร (มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ) และ 3.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ในขณะขับขี่ หรือโดยสาร หรือบนรถ (ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 42 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) และ 3 ไม่ คือ 1.ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ 2.ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง 3.ไม่ควรไปเที่ยวในสถานอโคจร มั่วสุม และ 3 ควร คือ 1.ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก 2.ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ 3. ควรรื่นเริง บนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย
ทั้งนี้ หากมีการพบเหตุ สิ่งของ หรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย และเป็นอันตรายต่อส่วนรวม สามารถแจ้งข้อมูลมายังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 และ 191 ได้ตลอด24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ในปีนี้กทม.จัดงานประเพณีภายใต้แนวคิด ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์New Normal โดยได้กำหนดจัดงานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 63 ในหลายพื้นที่ทั่วกรุง จุดแรกที่ บริเวณสะพานพระราม8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด ตั้งแต่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานไปจนถึงบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุด2 บริเวณสะพานหัน คลองโอ่งอ่าง เขตพระนครและเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกันจัดประเพณีลอยกระทงคลองโอ่งอ่าง63 ขึ้นบริเวณคลองโอ่งอ่าง ช่วงสะพานหันถึงสะพานภาณุ ภายใต้แนวคิด “งามสะพรั่ง จันทร์ริมคลอง” จุดที่ 3 สวนสาธารณะทั้ง 30 แห่งรอบพื้นที่กรุงเทพฯ โดย กทม.ได้เปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทงได้ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.
วันเดียวกัน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิด มหกรรมศิลปวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” ที่เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม โดยได้กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทง ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในการดำรงชีวิต สะท้อนถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ทั้งยังเป็นประเพณีที่มีสาระและคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน ศาสนา และสังคม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าและความผูกพันที่คนไทยมีต่อสายน้ำ แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงประเพณีอันดีงาม ขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ให้ผู้ร่วมงานแต่งกายด้วยผ้าไทยเพื่ออนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมไทยไว้อย่างงดงาม
ขณะที่ นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม อันทรงคุณค่าของคนไทย และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสขอบพระคุณและขอขมาต่อพระแม่คงคาสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริม และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประเพณีไทยของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในประเทศ โดยใช้รูปแบบการจัดงานเรียบง่าย เน้นความเป็นไทยร่วมสมัย ผสานนวัตกรรมรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่าอย่างสร้างสรรค์ ระยะเวลาการจัดงาน 30 ตุลาคม-1 พฤศจิกายนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี