อุตุฯเตือนพายุโคนี
อีสานเสี่ยงฝนหนัก
ผวจ.โคราชสั่งรับมือ
5อำเภอจมระลอก2
อุตุฯเตือนพายุโคนีเคลื่อนเข้าเวียดนาม จ่อกระทบไทย 5 พฤศจิกายนนี้ส่งผลให้ภาคอีสานฝนตกหนัก ซ้ำเติมโคราช ท่วมระลอก 2 พ่อเมืองสั่งเตรียมพร้อมรับมือ ส่วนปราจีนบุรี เร่งฟื้นฟู-ค้นหา 2 ผู้สูญหาย
เมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ‘โคนี’บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ฉบับที่ 3 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2563ระบุว่าพายุโซนร้อนโคนี บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ส่งผลให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางกับมีลมแรง
ขณะที่ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น โดยมีฝนบางแห่งบริเวณประเทศไทยตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักในระยะนี้
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัยผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนายบัลลังก์ ไวย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัยพ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย ลงพื้นที่บ้านขดน้ำอ้อม หมู่ 7 ต.นกออก อ.ปักธงชัย ติดตามสถานการณ์น้ำจากเขื่อนลำพระเพลิงที่กำลังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรอบที่สอง โดยมวลน้ำกำลังเริ่มไหลเข้าเขตเศรษฐกิจของ อ.ปักธงชัย โดยเฉพาะบ้านขดน้ำอ้อม และบ้านมงคลชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือนแล้วส่วนที่ตลาดสดเมืองปักธงขัย ระดับน้ำในลำคลองเริ่มสูง นายวิเชียรกล่าวว่า จากการติดตามน้ำที่ล้นจากเขื่อนลำพระเพลิง จากฝนที่ตกอย่างหนักเมื่อคืนวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงและล้นทางสปิลเวย์ โดยพบว่าน้ำได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วนพื้นที่ตลาดสดเริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วมเช่นกัน จึงได้แจ้งเตือนประชาชนให้รับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมรอบสอง ซึ่งเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เขื่อนลำพระเพลิงมีน้ำที่รอล้นออกจากเขื่อนกว่า 20ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มวลน้ำนี้จะไหลไปยัง อ.ปักธงชัย ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะไหลไปที่ อ.โชคชัย แต่สถานการณ์น้ำท่วมรอบสองไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก เนื่องจากไม่มีฝนตกมาสมทบกับน้ำที่ล้นออกจากเขื่อน ทั้งนี้ อ.โชคชัย อ.จักราช อ.เฉลิมพระเกียรติและอ.พิมาย จะมีน้ำท่วมรอบสองจากมวลน้ำนี้ จึงสั่งการให้เตรียมรับมือแล้ว
ที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ยังคงระดมกันเข้าช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำป่าที่พัดถล่มเข้าท่วมพื้นที่จนมีผู้สูญหายเป็นชาวบ้าน 2 ราย คือนายสำเนียง อถมพรมราช อายุ 65 ปี และนางโอ๋ อถมพรมราช สองสามีภรรยา ถูกน้ำพัดหายไปพร้อมบ้านพักซึ่งการค้นหาเริ่มต้นที่บริเวณใต้สะพานวังมืด จุดที่พบข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของผู้สูญหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเดินเท้าค้นหาไปตามริมตลิ่งสองฝั่งคลอง ทวนกระแสน้ำขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
สำหรับภารกิจฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะหมู่ 5 และหมู่ 8ซึ่งเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้บ้านพักหลายหลังยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้ เจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำไปฉีดล้างทำความสะอาด รวมถึงจุดที่ถูกดินโคลนทับถมพอกไว้ ซึ่งตั้งเป้าว่าอย่างน้อยภายในวันเดียวกันนี้จะต้องทำให้ครัวของชาวบ้านสามารถใช้การได้ก่อน เพราะหลายหลังคาเรือนไม่สามารถประกอบอาหารรับประทานได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี