ตร.แกะรอยมือบึม
ขว้างประทัดยักษ์ใส่ม็อบปลดแอก
ช่วงนัดชุมนุมMRTท่าพระ
ทนายอานนท์พ้นคุกลั่นสู้ต่อ
ยืนยันใน3ข้อเรียกร้องเดิม
ตำรวจนครบาลถกเครียดล่ามือบอนขวางประทัดยักษ์ใส่ม็อบปลดแอกขณะชุมนุมที่ MRT ท่าพระ โดยสันนิษฐานไว้หลายกลุ่มแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ในขณะที่ “ทนายอานนท์” ได้รับอิสระพ้นเรือนจำ ประกาศชัดเดินหน้าสู้ต่อไปพร้อมยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้องเดิม ส่วนแนวร่วมภูเก็ตฉายแสงถล่มรบ.บิ๊กตู่ขณะประชุมครม.สัญจร
เมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยกรณีเหตุบุคคลต้องสงสัย 2 คน ขว้างลูกบอลประทัดเข้าใกล้กลุ่มผู้ชุมนุมที่สถานีรถไฟฟ้าMRT ท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ว่า พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น.เรียก พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.ปรีชา เพ็งเภา ผกก.สน.ท่าพระ พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผกก.สืบสวน บก.น.7 ประชุมติดตามความคืบหน้าอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งจากคลิป และ ภาพถ่าย ที่สามารถรวบรวมได้ แต่ยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้งโดยมีกลุ่มผู้ต้องสงสัย 4 กลุ่ม กลุ่มแรกอาชีวะ เนื่องจากในพื้นที่เกิดเหตุมีกลุ่มอาชีวะหลายกลุ่ม กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชุมนุม กลุ่มมือที่ 3 ที่สร้างความขัดแย้งระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุม และ กลุ่มผู้ชุมนุมเอง
ล่าสุดที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 พล.ต.ต.จิรภัทร ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 พร้อม ผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่ และ ชุดสืบสวนทั้งหมด ประชุมหารือเกี่ยวกับการชุมนุมที่แยกท่าพระ
“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” เป็นห่วง
ในประเด็นดังกล่าว ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯได้แสดงความห่วงใย โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า กำลังตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่อยากให้มี ตนขอฝากไปถึงคนที่ทำด้วย เมื่อถามว่า จะสั่งการอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า จะมีการสั่งการอะไร
วอนตร.งดดำเนินคดีม็อบ
วันเดียวกัน นางสาวคอรีเยาะ มานุเเช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมเครือข่ายองค์กรและทนายความด้านสิทธิมนุษยชน นำหนังสือยื่น ต่อ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นางสาวคอรีเยาะ กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายของตำรวจ เป็นการกลั่นเเกล้ง เเกนนำเเละผู้ชุมนุม เพราะกระบวนการสอบสวนเเละเเจ้งข้อกล่าวหาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการชุมนุมนี้ เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ส่วนข้อหาที่แจ้งต่อผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นมาตรา 110 และมาตรา116 เป็นการแจ้งที่เกินกว่าเหตุ ผู้ชุมนุมไม่ได้มีพฤติการณ์ที่ส่อไปในความผิดดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ ไม่เพียงแต่ต้องพิสูจน์ความผิด แต่ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย เเต่ทำไมจึงบังคับใช้กฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิและไม่ให้ทุกคนกล้าออกมาแสดงความเห็น ส่วนตัวยังเห็นว่า วิธีการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยการ นำหมายจับ หมายเรียกเข้าอายัดตัวต่อเนื่องของตำรวจเเละเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง มักใช้กับคดีความมั่นคงในพื้นที่3จังหวัดชายเเดนภาคใต้ ตั้งเเต่ปี2549
เบื้องต้น พันตำรวจเอก ศุภกร ผิวอ่อน รองผู้บังคับการกองอัตรากำลั เป็นตัวเเทนรับเอกสาร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ภูเก็ตปลดแอกยิงเลเซอร์โจมตีครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟสบุ๊ก “ภูเก็ตปลดแอก” ได้เผยแพร่การยิงแสงเลเซอร์ ไปยังตึกต่างๆหลายพื้นที่ในเมืองภูเก็ต อาทิ ย่านเมืองเก่า ถนนถลาง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่หลังประชุมครม.เสร็จสิ้น ด้วยข้อความโจมตีการลงพื้นที่ประชุม ครม.นอกสถานที่ อาทิ “ครม.สัญจร ผักชีโรยหน้า” พร้อมลงข้อความว่า “การฉายเลเซอร์ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสันติวิธีที่พวกเราเลือกใช้ การเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตของคณะรัฐมนตรี โดยรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ เปรียบเสมือน #ผักชีโรยหน้า ที่เหล่าข้าราชการในพื้นที่ร่วมใจกันมอบให้กับนายใหญ่ และพร้อมใจกันไม่เห็นหัวประชาชน โกหก ทรยศ คนภูเก็ตซ้ำแล้วซ้ำอีก กับการที่บอกว่า จะรับเรื่องไปแล้วแก้ปัญหา แต่สุดท้ายคุณภาพชีวิตคนภูเก็ตก็เหมือนเดิมพวกเราชาวภูเก็ต(ไม่ทน) ไม่ต้องการคำหลอกหลวงพวกนั้นอีกแล้ว ข้อเสนอของเราต่อคณะรัฐบาลในตอนนี้ก็คือ#นายกต้องลาออกเท่านั้น !!!! #ครมผักชี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า “ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับรายงานว่ากลุ่มภูเก็ตปลดแอก ได้เตรียมการเคลื่อนไหวแสดงพลังด้วยการยิงเลเซอร์ และดำเนินการยิงเลเซอร์ไปเมื่อช่วงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา”
‘อานนท์’ยังเหิมลั่นพร้อมสู้ต่อ
เมื่อเวลา 00.05 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ และนายอานนท์ นำภา ทั้ง 4 เป็นผู้ต้องขังคดีทางการเมือง โดยมีญาติและมวลชนรอรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายอานนท์ได้เดินออกมาเป็นคนแรก ก่อนที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ จะเข้ามาสวมกอดพร้อมมอบดอกกุหลาบ
นายอานนท์กล่าวว่าอุดมการยังเหมือนเดิมแม้จะถูกจับ และขอยืนยันในข้อเรียกร้องเหมือนเดิมทั้ง 3 ประการ
นายอานนท์กล่าวอีกว่า ถึงจะมีการยั่วยุจากฝ่ายตรงข้ามให้จบที่ความรุนแรง ก็ขอยืนยันว่าความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ และพร้อมจะต่อสู้อย่างสันติวิธีเพื่อให้ผู้คิดต่างได้ตระหนักเช่นกันว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องจบลงที่ความรุนแรงเสมอไป ส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ มองว่า หากตั้งอยู่บนการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาก็สามารถหาทางออกให้กับเรื่องนี้ได้ ทางกลุ่มก็พร้อมที่จะพูดคุย เพราะประเด็นและข้อเรียกร้องก็ถือว่าชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนการปล่อยตัวในครั้งนี้ก็ไม่มีเงื่อนไขในการห้ามชุมนุมแต่อย่างใด
อาชีวะนัดแถลงข่าวพุธนี้
สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มอาชีวะช่วยชาติออกมาแสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน และเข้าปะทะกับกลุ่มเยาวชนที่มาร่วมชุมนุมในช่วงเย็นวันที่ 21 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 รายนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน นายทินกร ปลอดภัย แกนนำกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน เปิดเผยทางเฟซบุ๊กว่า วันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 11.00น.เชิญชวนประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดี ร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมแถลงข่าวความจริงเหตุการณ์ที่ ม.รามคำแหง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม โดยกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ แนวร่วมพ่อขุนเทิดทูนสถาบัน และอื่นๆ ที่ลานพ่อขุนรามคำแหง ม.รามคำแหง
กมธ.เชิญผบ.ตร.-ผบช.น.แจง
ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่มีการชุมนุมหลายหน ทางโฆษก กมธ.ตำรวจ กล่าวต่อว่า กมธ.การตำรวจ มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลและควบคุกลุ่มผู้ชุมนุมภายใต้กรอบและมาตรการตามกฎหมาย
จึงได้กำหนดจะพิจารณาเรื่องมาตรการและแนวปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อควบคุมการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่นๆ โดยในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 10.00น. จะเชิญ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาชี้แจง
กสม.เป็นห่วงการชุมนุม
นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งได้เกิดกรณีต่าง ๆ เช่น การจับกุมบุคคลในยามวิกาล การจับกุมและควบคุมตัวบุคคลโดยเจ้าหน้าที่แต่งกายนอกเครื่องแบบ การใช้ยานพาหนะที่มิใช่ยานพาหนะของราชการในการจับกุม รวมถึงการจับกุมและการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อการดำเนินคดีแบบต่อเนื่อง จนทำให้เกิดข้อเรียกร้องจากผู้ถูกจับกุมตามที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อมวลชนนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความกังวลต่อการดำเนินการดังกล่าว โดยเฉพาะการจับกุมดำเนินคดีผู้ชุมนุมที่เป็นเด็กและเยาวชน โดยที่กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ประกอบกับการดำเนินการใด ๆ ของรัฐ จะต้องคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่บัญญัติรับรองและคุ้มครองไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
“เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมและดำเนินคดีแก่ผู้ชุมนุมเป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชนสากล จึงได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด เรื่องข้อห่วงใยต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมตัวและดำเนินคดีแก่ผู้ชุมนุมในสถานการณ์การชุมนุม แจ้งไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินการใด ๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานการณ์ชุมนุมที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล หรือกระทบให้น้อยที่สุดและเท่าที่จำเป็น และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมและการดำเนินคดีให้สาธารณชนทราบโดยเร็ว” นางประกายรัตน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี