ฝ่าดงระเบิด! ทหารพรานสกัดจับเขมร หนีอดตาย เดินเท้าลอบเข้าไทย   

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 (ผบ.ชค.กรม.ทพ.12) สั่งการให้ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1205 (ผบ.ร้อย ทพ.1205) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวน เฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อาจติดมากับแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย ตามช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านพิธีการตรวจคัดกรองโรค ของ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา

ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ.1205 นำกำลังดักซุ่มและเฝ้าตรวจบริเวณป่าละเมาะ ห่างเขตแดนกัมพูชา ประมาณ 100 เมตร ท้ายหมู่บ้านภูน้ำเกลี้ยง ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบกลุ่มชาย หญิงชาวกัมพูชา จำนวน 8 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน เดินเท้าข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชาข้ามเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่เกรงกลัวกับระเบิดที่หลงเหลือจากสงครามภายในกัมพูชาที่เจ้าหน้าที่กัมพูชายังเก็บกู้ไม่หมด แล้วเดินเท้ามุ่งหน้าจะเข้าท้ายหมู่บ้านภูน้ำเกลี้ยง

เจ้าหน้าที่ซึ่งดักซุ่มอยู่ได้แสดงตัวพร้อมบุกเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดรวม 8 คน ตรวจสอบไม่พบมีเอกสารการเดินทางแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่มีการสวมแมส หรืออุปกรณ์การป้องกันไวรัสโควิด-19 อีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่1205 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนทำการสอบสวน จนท.ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และใช้แอลกอฮอล์เจลล้างมือชาวกัมพูชาทั้ง 8 คน และนำหน้ากากอนามัยมาให้สวมใส่

จากการสอบสวนชาวกัมพูชาทั้ง 8 คน อ้างว่าอยู่ในฝั่งกัมพูชาไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ จึงชักชวนกันลักลอบเข้ามาในประเทศไทย เพื่อจะไปหางานรับจ้างตัดอ้อย และขุดมันสำปะหลังที่หมู่บ้านไทยสามารถ ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าไม่กลัวกับระเบิดหรือ เนื่องจากในฝั่งกัมพูชาบริเวณตะเข็บชายแดนยังมีกับระเบิดสมัยสงครามภายในกัมพูชาหลงเหลือยู่  ชาวกัมพูชาทั้ง 8 คนบอกว่าไม่กลัว แต่กลัวอดตายมากกว่า

หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายภาพทำประวัติ ก่อนประสานฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา พร้อมนำตัวชาวกัมพูชาทั้ง 8 คน ไปผลักดันกลับประเทศ ที่ช่องอนุโลมชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ต่อไป