เก็บตก‘คนละครึ่ง’
ลงทะเบียนครบ2.4ล้านสิทธิ์
รบ.ปลื้มตอบรับดีจ่อผุดเฟส2
คนแห่ลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง”รอบเก็บตก 2.4 ล้านสิทธิ์ เต็มแล้ว “บิ๊กตู่” ยอมรับถ้าดีอาจจะมีต่อ“รมว.คลัง” ปลื้มเฟสแรกได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม เล็งออกเฟส 2 เป็นของขวัญปีใหม่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังซื้อในประเทศเพิ่ม พร้อมยืนยันงบประมาณมีเพียงพอ
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ซึ่งเปิดการลงทะเบียนโครงการ‘คนละครึ่ง’เก็บตกรอบ 2 จำนวน 2.4 ล้านสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ปรากฏว่าระบบล่มไม่สามารถลงทะเบียนได้ หลังจากนั้น จึงเริ่มกลับมาลงทะเบียนได้อีกครั้งในเวลา07.00น.โดยในช่วงเวลา 09.00 น. พบว่ามียอดการลงทะเบียนไปแล้ว1.3 ล้านราย จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.15น.ได้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนครบ 2.4 ล้านสิทธิ์ โดยผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน จะได้รับแจ้งว่าให้รอรับ SMS แจ้งสิทธิ์ภายใน 3 วัน
ที่ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยในงานสัมมนา และปาฐกถา เรื่อง“ภาคธุรกิจไทยในวิถียั่งยืน”ช่วงนหนึ่งถึงโครงการคนละครึ่งซึ่งในวันนี้ได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งในรอบใหม่ว่าได้รับทราบเรื่องแล้วตั้งแต่เช้าที่มีคนเข้าไปลงทะเบียนกันจนระบบล่ม เพราะคนเข้าไปในช่วงแรกจำนวนมากตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียน และก็ดีขึ้นต่อจากนั้นซึ่งเห็นว่าโครงการนี้ถ้าดีก็อาจมีต่อ
ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้กล่าวถึงโครงการ‘คนละครึ่ง’ซึ่งตอนนี้ผลตอบรับดีมาก น่าจะมีการขยายออกไปหรือไม่ รองนายกฯ ยอมรับว่าก็น่าจะมีแต่ขอให้รอดูหลังการประชุม ศบศ.ที่จะประชุมในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นการขยายวงเงินเพิ่มจาก150 บาทต่อวันหรือไม่ รองนายกฯ ยอมรับว่าก็ต้องดูก่อนเพราะการเพิ่มวงเงินก็อาจเป็นช่องเป็นความเสี่ยงต่อมิจฉาชีพได้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมจัดทำโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศและเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน หลังจากโครงการในเฟสแรกประสบความสำเร็จ และมีประชาชนเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยเบื้องต้นจะขยายเวลาโครงการจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ออกไปถึงช่วงต้นปี 2564 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่มากขึ้น ขณะที่ร้านค้ามียอดขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าขนาดย่อย ร้านอาหารขนาดเล็กที่มียอดขายเพิ่มขึ้น
“ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ประชาชนใช้จ่ายเงินประมาณ 51% ขณะที่รัฐจ่ายเงินให้ 49% ส่วนจะมีการขยายสิทธิ์เกิน 10 ล้านคน หรือ เพิ่มวงเงินที่รัฐช่วยจ่ายจากปัจจุบัน 3,000 บาทต่อคน หรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในโครงการคนละครึ่ง ยังมีเพียงพอ โดยสามารถนำเม็ดเงินจากเม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของ พ.ร.ก.กู้เงินมาใช้ได้ ซึ่งปัจจุบันมีเม็ดเงินเหลือมากกว่า 200,000 ล้านบาท จากทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งสิ้น 400,000 ล้านบาท” รมว.คลัง กล่าว
ขณะที่ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รมว.การคลัง ได้ให้นโยบายเรื่องนี้ชัดเจนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดทั้งหมด ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา 2 เรื่องคือ วงเงินที่นำมาใช้ และระยะเวลาในการใช้จ่ายในโครงการ โดยโครงการคนละครึ่ง ระยะแรก ใช้เงินจากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งได้ขออนุมัติสำหรับใช้ในโครงการดังกล่าวจำนวน 3 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการในระยะที่ 2 จะใช้วงเงินเท่าไหร่ ต้องไปดูวงเงินในส่วนการฟื้นฟูว่ายังเหลือวงเงินเท่าไหร่ เท่าที่ทราบขณะนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ได้อนุมัติใช้วงเงินในส่วนนี้ไปแล้ว 1 แสนกว่าล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งโครงการระยะที่ 1 และ 2 จะแยกกันอย่างชัดเจนคือ คนที่ลงทะเบียนระยะที่ 1 จะมีเวลาใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 1 ม.ค.64 เบื้องต้นอาจพิจารณาให้สิทธิ์สำหรับ 10 ล้านคนที่ลงทะเบียนในโครงการระยะที่ 1 แบบอัตโนมัติ แต่จะมีระบบให้เปิดเพื่อแจ้งยกเลิกการรับสิทธิ์ในระยะที่ 2 ได้ ส่วนจะมีเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มจาก 10 ล้านคนเท่าไหร่ ยังต้องรอดูวงเงินที่จะใช้ดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี