"คุณหญิงกัลยา"เป็นประธานพิธี"ปลูกไม้ ปลูกชีวิต ปลุกจิตอนุรักษ์" และปล่อยคาราวานกล้าไม้ 47,000 กล้า ไปปลูกยังวิทยาลัยอาชีวเกษตร 4 ภูมิภาค
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ที่บริเวณสนามหญ้า กระทรวงศึกษาธิการ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานพิธีงาน "ปลูกไม้ ปลูกชีวิต ปลุกจิตอนุรักษ์" และพิธีปล่อยคาราวานกล้าไม้ จำนวน 47,000 กล้า ไปปลูกยังวิทยาลัยเกษตร 47 แห่ง โดยความร่วมมือระหว่างกระทรงศึกษาธิการกับมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ เพื่อแจกกล้าไม้ให้กับตัวแทนผู้บริหารวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 4 ภาค ประกอบด้วย วิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดภาคเหนือ วิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดภาคกลาง และวิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดภาคใต้) เพื่อนำไปปลูกภายในวิยาลัยละ 1,000 กล้า โดยมีนายภูมิสรรค์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาและประธานยุทธศาสตร์นโนบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) และประธานยุทธศาสตร์ มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์, นายธนู ขวัญเดช รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.ชาติชาย เกตุพรหม ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด, นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมในพิธี
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า "ดิน น้ำ ป่า" จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแผ่นดินไทย หากดิน น้ำป่าดี ก็จะทำให้คนมีกินมีใช้ กระทรวงศึกษาธิการ มีสถานศึกษากระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงอยากให้สถานศึกษารวมถึงวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ กระจายความเขียวขจี ความรู้ การสร้างจิตสำนึกในเรื่อง ดิน น้ำ ป่า ให้กับเยาวชนภายใต้แนวคิด "ปลูกไม้ ปลูกชีวิต ปลุกจิตอนุรักษ์" โดยมี นโยบายว่าถ้าวิทยาลัยกษตรฯ มีพื้นที่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ อย่างน้อยก็จะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่ม 50 ไร่ ถ้ามีพื้นที่มากกว่า 1,000 ไร่ ก็อยากให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 100 ไร่เป็นอย่างต่ำ โดยให้นักเรียนอาชีวเกษตรรับไปดูแลคนละ 1 ต้น คูแลตั้งแต่การปลูกตันไม้ไปจนเรียนจบ เพื่อให้เติบโตไปคู่กัน (ปลูกชีวิต) มีจิตสำนึกในการปลูกตันไม้ (ปลุกจิตอนุรักษ์) คือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า สำหรับต้นไม้ที่นำมาแจกครั้งนี้ ทางมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ ได้ว่าจ้างกลุ่มวิสหกิจชุมชนวนกษตรเพื่อการพึ่งพากันเองบ้านห้วยหิน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ในการเพาะกล้าไม้ ที่มีคุณภาพ แบ่งเป็นกล้าไม้ 2 ประเภท จำนวน 24 ชนิด คือ ประเภทไม้ยืนต้นที่เป็นไม้ป่าอนุรักษ์ และไม้มีค่า ได้แก่ ยางนา แดง พะยูง พยอม มะค่าโมง มะค่าแต้ ตะเคียนทอง ประดู่ป่า มะฮอกคนี รัง กระบก สำรอง มันปู กฤษณา และกระบาก ประเภทไม้ป่าให้ผลและไม้ผลที่เพาะจากเมล็ด ได้แก่ คอแลน (สิ้นจี่ป่า) มะพลับสวน มะกอกน้ำ ขนุน ตะขบป่า กระท้อน มะม่วงป่า หว้า ชะมวง ซึ่งกล้าไม้ทั้งหมดนี้ได้มอบให้กับสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 ภูมิภาค
"โครงการนี้ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแผ่นดินไทย ศธ.มีสถานศึกษาเป็นศูนย์กลางการกระจายความเขียวกระจี ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ดิน น้ำ ป่า ความหวังของประเทศไทยที่จะให้มีความอุดมสมบูรณ์จึงอยู่ไม่ไกลเกินเอื่อมเมื่อเยาวชนของประเทศเห็นความสำคัญว่า ดิน น้ำ ป่า คือข้าวปลาอาหารของลูก หลาน เหลน และวิถีชีวิตภูมิปัญญาชาวบ้านก็จะได้ประสารรวมกันไปกับการปลูกต้นไม้ ต้นไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวในโลกที่พวกเราจะสามารถฟื้นฟูได้ จึงอยากเชิญชวนให้ทุก ๆคนปลูกต้นไม้ทุกวันเพื่อต่ออายุตัวเอง ต่ออายุให้พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และเป็นสมบัติ เป็นความมั่นคงของชีวิต เนื่องจากรัฐบาลยกเลิกกฏหมายต้นไม้หวงห้าม 58 ชนิดแล้ว ดังนั้น ถ้าเราปลูกต้นไม้ในพื้นดินวันนี้ อีก 10 - 20 ปีข้างหน้า ก็จะเป็นสมบัติ เป็นมรดกให้กับลูกหลานได้ด้วย จึงมาร่วมปลูกต้นไม้เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของประเทศของเราและเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองต่อไปในอนาคต "ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี