นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรีนายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางไปติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชูชาติ รักจิตรผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 นายสนฑ์ จินดาสงวนผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 13 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฯร่วมต้อนรับ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินโครงการ ณ โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำชี อยู่ในเขต 13 จังหวัด โดยมีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 30.92 ล้านไร่ มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,174 มิลลิเมตร/ปี ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 11,244 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี ปริมาณเก็บกักปัจจุบัน 5,650 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 50.24% ของปริมาณน้ำท่า ซึ่งกรมชลประทานได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในเขตลุ่มน้ำชี โดยได้ดำเนินการตามพระราโชบาย ในการ “สืบสาน รักษา
ต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้ช่วยเหลือราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้น้อมนำศาสตร์พระราชามาดำเนินการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยต้นน้ำมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบริเวณตอนบนในเขตจังหวัดชัยภูมิ บริเวณกลางน้ำมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำ เขื่อนระบายน้ำและแก้มลิงทั้ง 2 ฝั่งลำน้ำชี และบริเวณปลายน้ำมีการก่อสร้างอาคารควบคุมปริมาณน้ำและทางผันน้ำ
ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดชัยภูมิประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรน้ำฝน มักจะประสบปัญหารุนแรงในช่วงกรณีฝนทิ้งช่วง ถึงแม้ว่าจังหวัดชัยภูมิจะมีปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่ก็มีปัญหาฝนตกไม่สม่ำเสมอและไม่กระจายทั่วทั้งพื้นที่ ทำให้พื้นที่บางแห่งไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้อย่างเต็มที่ หากทำการเพาะปลูกในฤดูแล้งจะทำการเพาะปลูกได้เฉพาะในเขตพื้นที่ชลประทานเท่านั้น กรมชลประทานจึงได้เริ่มศึกษาโครงการพัฒนาลุ่มน้ำซีตอนบนเมื่อปี 2507 และศึกษาเพิ่มเติมในปี 2514 โดยเสนอให้ก่อสร้างเขื่อนน้ำชีขนาดความจุประมาณ 1,860ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนส่งให้พื้นที่ชลประทานประมาณ 222,440 ไร่
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริ ว่า “เขื่อนเก็บกักน้ำลําน้ำชี ซึ่งกรมชลประทานได้วางโครงการจะก่อสร้างขึ้นนั้น มีปัญหาเรื่องที่ดินภายในอ่างเก็บน้ำมากจึงควรพิจารณาเลื่อนเขื่อนเก็บกักน้ำลําน้ำชีมาก่อสร้างใต้ลงไป และพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำหรือฝายทดน้ำบริเวณต้นน้ำลำน้ำชี และตามลําน้ำสาขาต่างๆ ของลําน้ำชี เพื่อจัดหาน้ำช่วยเหลือราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ที่จะเป็นอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีเดิมให้สามารถมีน้ำทําการเพาะปลูกได้ทั้งในระยะฤดูฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคตลอดปีด้วย”
กรมชลประทานได้สนองพระราชดําริโดยศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งออกแบบรายละเอียดและเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำลําน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดําริโดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินการโครงการ เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562ระยะเวลาดําเนินการ 6 ปี (2562-2567) กรมชลประทานจึงได้ดําเนินการก่อสร้างหัวงานเขื่อนและอาคารประกอบ มีความจุที่ระดับน้ำเก็บกัก 70.21 ล้านลูกบาศก์เมตรมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเฉลี่ย 786 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีพื้นที่รับประโยชน์ จำนวน 75,000 ไร่ฤดูแล้ง 30,000 ไร่ สามารถเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนสถานีสูบน้ำตามลําน้ำชี ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิจนถึงจุดบรรจบลําน้ำพอง ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและทำการประมง และช่วยบรรเทาอุทกภัยบริเวณพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำด้วย
จากนั้นในช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการแก้มลิงบึงนกโง่พร้อมอาคารประกอบ ตำบลศรีสำราญ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการโดย นายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ พร้อมพบปะราษฎรในพื้นที่และเยี่ยมชมผลผลิตทางการเกษตรของชุมชน และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 3 แสนตัวเพื่อเป็นการขยายพันธุ์ปลาและเพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศต่อไป
สำหรับโครงการแก้มลิงบึงนกโง่พร้อมอาคารประกอบ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,420 ไร่ ที่ผ่านมาสามารถเก็บกักน้ำได้3,862,970 ลูกบาศก์เมตร สภาพโดยทั่วไปมีสภาพตื้นเขิน โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลากเกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณรอบบึงและมีตะกอนสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงโครงการแก้มลิงบึงนกโง่ โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักเป็น 5,096,000 ลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์รวม 4,250 ไร่ 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน 625 ครัวเรือน สามารถใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในด้านการผลิตประปา และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรให้กับราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี