หมอใช้ทุนโรงพยาบาลตราดส่งหนังสือขอให้นายแพทย์สาสุขและผู้อำนวยการรพ.ตราดแก้ไข ระบุรับภาระหนักทั้งการเข้าทำงาน เข้าเวร และถูกบังคับซื้อเวร ระบุทำไม่ไหวหวั่นส่งผลกระทบการทำงาน ด้านผู้บริหารยอมรับ และได้หารือมา 3 ครั้ง ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว 

จากการเปิดเผยของแพทย์ใช้ทุนกลุ่มหนึ่งของโรงพยาบาลตราด ที่เดินทางรักษาคนไข้เพื่อใช้ทุนได้รับผลกระทบจากการทำงานในโรงพยาบาลตราดเนื่องจากต้องเข้าเวรในช่วงหลังเลิกทำงานในเวลา 18.00 น.เพิ่มและยังต้องถูกบังคับซื้อเวรจากแพทย์อาวุโสหลายคน ที่เป็นแพทย์เฉพาะทาง แม้มีรายได้จากการเข้าเวร ซึ่งทำให้การทำงานเพิ่มจากเดิมที่มีเวร 8-9 เวร แต่ปัจจุบันมีเวรเพิ่มถึง 21-22 เวร ซึ่งถือว่ามาก และทำให้ไม่มีเวลาในการพักผ่อน ซึ่งจากปัญหานี้ได้แจ้งให้ทางผู้บริหารโรงพยาบาลได้รับทราบถึงปัญหาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แม้จะได้มีการประชุม 2-3 ครั้งแต่ยังหาข้อสรุปที่ลงตัวไม่ได้ 

“ผมต้องการเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาและทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์ที่เป็นสต๊าฟและแพทย์ เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาการทำงานที่สวนทางกันหากไม่สามารถยุติปัญหาได้จะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่เข้ามารักษาในโรงพยาบาลตราด ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขจ.ตราดรวมทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราดแล้ว เพื่อให้แก้ไขเรื่องนี้โดยเร็ว”

ทางด้านแพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาลตราดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ยอมรับว่า เป็นความจริง และกำลังมีการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อยู่ และประชุมกันไปแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งแนวโน้มเป็นไปด้วยดี ซึ่งการทำงานของแพทย์ใช้ทุนหรือหมออินเทรินนั้นยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสต๊าฟนอกเหนือจากการทำงานในเวลาราชการแล้วจะต้องเข้าเวรโดยเฉพาะในห้องอุบัติเหตุที่ต้องอยู่หลังเวลา 18.00 น.นอกจากนี้ยังมีเวรที่แพทย์อาวุโสขายเวรให้ซึ่งแพทย์เหล่านี้ก็คือ แพทย์ที่ควบคุมดูแล ทำให้แพทย์ใช้ทุนต้องรับซื้อ ซึ่งหลายรายต้องการเงินก็ยอมรับ หลายรายอาจจะไม่ต้องการ แต่ก็จำใจต้องรับ เพราะหากไม่รับอาจจะมีผลต่อการประเมินผล ซึ่ง เรื่องราวเหล่านี้ ได้รับการแก้ไขในเรื่องการเข้าเวร โดยเฉพาะค่าเข้าเวรจะได้รับ 1,500 บาท ซึ่งนับว่ามาก

สำหรับเรื่องราวนี้ ทางกลุ่มแพทย์ใช้ทุนได้ทำหนังสือเรียกร้องไปให้ผู้รับผิดชอบในระดับกระทรวง และผู้บริหารในระดับจ.ตราดทราบแล้ว โดยมีข้อความส่วนหนึ่งในช่วงท้ายระบุเจตนาของการเรียกร้องครั้งนี้ว่า 

“พวกเราในฐานะแพทย์ใช้ทุนโรงพยาบาลตราด มีความรู้สึกไม่สบายใจ ในปัญหาข้างต้น ที่เราพบทั้งในแง่การทำงานของเราเอง และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ความปลอดภัย และผลประโยชน์ของคนไข้ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ เราได้ทราบมาจากเพื่อนของพวกเรา ที่กระจายทำงานในสถานที่ต่างๆ ว่ามีปัญหาในลักษณะคล้ายกันนี้ ในโรงพยาบาลอีกหลายๆแห่ง ซึ่งบางครั้งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขอนามัยของคนไข้ แล้วยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของแพทย์ผู้ทำงานจนมีหลายกรณีที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตระยะยาวต่อแพทย์ผู้ทำงานได้ 

พวกเราเชื่อว่า ภายใต้สภาวะสังคมที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง มีการผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆในสังคมทุกระดับ พวกเราในฐานะแพทย์ แม้จะเป็นแพทย์รุ่นใหม่ แต่ในฐานะบุคคลากรที่ทำงานสาธารณสุขต่อไปในอนาคต พวกเราจึงเชื่อว่า การพัฒนาและการแก้ปัญหาที่มีอยู่มาอย่างยาวนานเหล่านี้  คือ ก้าวสำคัญในการพัฒนาวงการสาธารณสุขให้มีคุณภาพและยังยืนสืบต่อไป” ซึ่งแพทย์ใช้ทุน ประจำโรงพยาบาลตราด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์สุพจน์ แพรนิมตร ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลตราด เปิดเผยว่า ในทุกปีจะมีแพทย์ใช้ทุน มาปฏิบัติงานที่ รพ.ตราด โดย รพ.ตราด ได้จัดให้มีการปฐมนิเทศแนวทางการปฏิบัติงาน และมีระบบแพทย์พี่เลี้ยงให้คำปรึกษาทั้งปัญหาการปฏิบัติงาน และแนวทางการรักษาผู้ป่วยเมื่อทราบปัญหา ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างแพทย์ใช้ทุนกับแพทย์เฉพาะทางโดยมี นพ.ฤชุพงศ์ ผู้ภักดี แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมกระดูก เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการประสานงานและได้ข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้  คือ 1.เวรห้องฉุกเฉินนอกเวลาราชการ ได้จัดสรรเวรให้ได้ในสัดส่วนเหมาะสม  2.เวรชันสูตร และเวรตรวจผู้ป่วยนอกทั่วไปในเวลาราชการ กรณีแพทย์เฉพาะทางไม่สามารถอยู่ปฏิบัติงานได้ จะต้องมีการแจ้งล่วงหน้าเพื่อมอบหมายให้แพทย์ใช้ทุนปฏิบัติงานแทนและแพทย์ใช้ทุนสามารถปฏิเสธได้

สำหรับแผนกอายุรกรรมนั้น ปัจจุบัน รพ.ตราด มีอายุรแพทย์ 1 คน อายุรแพทย์โรคหัวใจ 1 คน และ อายุรแพทย์โรคไต 1 คน รวมเป็นแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรม จำนวน 3 คน รพ.ตราด ได้จัดให้แพทย์ใช้ทุนเข้าปฏิบัติงานร่วมด้วย ซุ้งภายหลังการหารือได้ข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้ คือ จัดอายุระแพทย์ทั่วไปเสริม เพื่อลดภาระงานของแพทย์ใช้ทุน,จัดสรรเวร และวางระบบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ใช้ทุนปรึกษาและปฏิบัติงานได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น จัดระบบคัดกรองผู้ป่วยโรคซับซ้อน/มีภาวะแทรกซ้อนให้แพทย์เฉพาะทางตรวจ ,กรณีมีการปรับยาหรือแนวทางการรักษาให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางพร้อมจัดตารางให้ออกตรวจร่วมกัน เพื่อความสะดวกในการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและให้แพทย์เฉพาะทางเขียนแผนการรักษาในประวัติผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์ใช้ทุนใช้เป็นแนวทาง

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด กล่าวอีกว่า ในกรณีที่แพทย์ต้องใช้เวรและเปิดคลีนิคส่วนตัวนั้น ได้แก้ไขให้ช่วงเวลาที่แพทย์ไปเปิดคลินิกส่วนตัว จะต้องไม่มีเวรปฏิบัติงานใน รพ. หรือหากมีเวรแพทย์จะต้องมอบหมายเวรให้เรียบร้อย สำหรับการเปิดคลินิกส่วนตัวซึ่งเป็นสิทธิของแพทย์จะต้องไม่ให้กระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยแพทย์จะต้องจัดสรรเวลา กรณีไม่สามารถขึ้นเวรนอกเวลาราชการได้อาจมอบหมายให้แพทย์ใช้ทุน โดยความสมัครใจของแพทย์ใช้ทุน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราดได้เข้ามาขอบคุณผู้สื่อข่าวได้ติดตามปัญหาเรื่องนี้ จนนำมาสู่การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ทำให้การแก้ปัญหาของโรงพยาบาลตราดเกิดง่ายขึ้น เพราะหากไม่มีการนำเสนอข่าวออกไปยังสาธารณชนหรือผู้บังคับบัญชาทราบก็ยากที่จะทำให้สังคมหรือผู้บริหารในระดับสูงเข้ามาแกไขปัญหา ซึ่งเรื่องแพทย์ใช้ทุนมีปัญหาในทุกพื้นที่ 

ทั้งนี้ มีข่าวดีว่า ในปี งบประมาณ 2564 โรงพยาบาลตราดจะได้แพทย์เฉพาะทางเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งจะทำให้สามารถดูแลรักษาคนไข้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น