เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 คณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และภาคีเครือข่าย จัดเสวนา “การคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้านและแรงงานในภาคเกษตร” ที่ รร.เดอะสุโกศล ถ.ศรีอยุธยา กรุงเทพฯ โดย นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. เล่าถึงข้อค้นพบเกี่ยวกับแรงงานนอกระบบบางอาชีพที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ จากการที่ สสส. ได้สนับสนุนการทำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาทิ 1.แกะสลักหิน เช่น การทำครกหินที่ จ.ลำปาง โดยการกลึงและการขึ้นรูปจะทำโดยเครื่องจักรซึ่งมักตั้งอยู่ในครัวเรือนของตนเองไม่ได้แยกออกมีรั้วรอบขอบชิดต่างหาก ซึ่งตรวจพบฝุ่นหินเข้าไปอยู่ในปอดของช่างทำครกผ่านการหายใจ นอกจากนี้ยังอาจกระจายออกไปสู่ชุมชน หรือการตัดและแกะสลักหินกาบที่ จ.นครราชสีมา พบฝุ่นหินในปอดของช่างตัดและแกะสลักเกินค่ามาตรฐาน
2.ย้อมสีผ้า กรณีศึกษาที่ จ.สุรินทร์ ถึงขนาดมีพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า “ป้าโครเมียม” หมายถึงคุณป้าท่านหนึ่งที่มีอาชีพช่างย้อมผ้า ซึ่งเมื่อตรวจร่างกายก็พบสารโครเมียมเกินค่ามาตรฐานไปมาก การค้นพบครั้งนี้ทำให้ สสส. ร่วมกับนักวิชาการ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เข้าไปทำความเข้าใจกับชุมชนดังกล่าว เพื่อให้คุณป้าท่านนี้รวมถึงคนอื่นๆ ในชุมชนที่ประกอบอาชีพย้อมผ้า เปลี่ยนจากการใช้สีที่เป็นสารเคมีมาใช้สีธรรมชาติ
“เปลี่ยนยากมากในแง่ปฏิบัติ เพราะสีเคมีราคาถูกกว่า ย้อมได้เร็วกว่า แค่ไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว แล้วก็ทำให้ต้นทุนของผ้านั้นถูกกว่า คนซื้อก็ชอบเพราะว่าสีสันสดใส การจะเปลี่ยนป้าโครเมียมให้ใช้สีธรรมชาติแทนสีเคมีไม่ง่าย ต้องเข้าไปคุยกับ รพ.สต. คุยกับคนในชุมชนให้เห็นก่อนว่าใช้สีเคมีแล้วป้าเป็นอย่างไร ฟัน กระดูก เนื้อตัวร่างกายของคนที่ใช้สารเคมีแค่ระยะเวลาหนึ่งก็ทำให้สารโครเมียมในร่างกายเกินค่ามาตรฐาน” นางภรณี ระบุ
ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าว กล่าวต่อไปว่า ต้องใช้เวลาราว 1 ปีเศษกว่าจะทำความเข้าใจกับแกนนำชุมชนให้เปลี่ยนจากการใช้สีเคมีมาเป็นสีธรรมชาติ ซึ่งต้องลงแรงไปตัดไม้หรือเก็บพืชที่สามารถนำมาทำสีได้ ใช้เวลาย้อมนานกว่าสีเคมี และสีสันไม่ได้สดใสเหมือนสีเคมี โดยอีกด้านหนึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกับผู้บริโภคเช่นกันว่าให้เปลี่ยนมาใช้ผ้าที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติ เพื่อให้คุณป้าช่างย้อมผ้ามีสุขภาพดีขึ้น และยังป้องกันปัญหามลพิษในแหล่งน้ำจากการเทน้ำทิ้งที่ใช้ในการย้อมผ้าซึ่งปนเปื้อนสารเคมีด้วย
และ 3.ทำหมอนขิด หมายถึงหมอนรูปทรงสามเหลี่ยม ช่างทำหมอนจะไปรับซื้อหมอนหรือที่นอนเก่าจากทั่วประเทศมาแงะนุ่นที่เป็นไส้ในออก ซึ่งนุ่นเหล่านั้นเป็นนุ่นใช้แล้วและเต็มไปด้วยเชื้อรา และช่างเองก็ไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกัน จึงมีความเสี่ยงได้รับอันตรายจากฝุ่นชีวภาพ หรือฝุ่นปนเปื้อนเชื้อราที่ฟุ้งกระจาย ทั้งนี้ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดตนไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ว่ากับแรงงานคนใดที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย
“หากมีการทำงานเชิงลึกในพื้นที่อื่นๆ ทำความเข้าใจ ก็น่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เกิดความเข้าใจ คิดว่าทุกคนปกป้องเนื้อตัวร่างกายและสิทธิทางสุขภาพของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะยังไม่มีความรู้พอว่าสิ่งที่กำลังใช้ประกอบอาชีพนั้นมีอันตรายกับตัวเองแค่ไหน เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ คนที่รู้ นักวิชาการ ก็น่าจะช่วยกันสื่อสารส่งข่าว ในการบอกถึงความปลอดภัย” นางภรณี กล่าว
ขณะที่ นายจรัญชัย ก่อศรีพิทักษ์กุล ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทำให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำรวจว่านอกจากอุตสาหกรรมประมงที่ถูกพูดถึงกันมากแล้ว ยังมีอาชีพใดอีกบ้างที่สุ่มเสี่ยงต่อปัญหาการค้ามนุษย์ หรือการใช้แรงงานบังคับเอารัดเอาเปรียบ
อาทิ แรงงานในภาคเกษตร เช่น การจ้างแรงงานประจำฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ การจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวอ้อยในไร่อ้อยขนาดเล็กไม่คุ้มที่จะซื้อเครื่องจักรมาใช้งาน แรงงานเหล่านี้มักเป็นแรงงานต่างด้าว หรือแรงงานข้ามชาติ โดยยอมรับว่าการตรวจสอบเป็นไปได้ยาก เพราะนายจ้างสามารถพาแรงงานผิดกฎหมายไปหลบซ่อนตัวเมื่อมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ เช่น มีรถยนต์แล่นเข้าไปในพื้นที่ฟาร์มหรือไร่
เช่นเดียวกับกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ที่สุ่มเสี่ยงถูกละเมิดได้ง่ายเนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายไป-มา นอกจากนี้ยังมีกรณีอุตสาหกรรมคัดแยกขยะ ที่ปัจจุบันมีการประมูลขยะจากเทศบาลไปเทกองแล้วมีแรงงานไปคัดแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้นำไปส่งขาย ซึ่งมักจะเป็นแรงงานต่างด้าว แรงงานกลุ่มนี้มีความเสี่ยงด้านสุขอนามัย เช่น อาจได้รับเชื้อโรคจากขยะ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติเข้าไปตรวจสอบว่าจะดำเนินการอย่างไร
“ส่วนกิจการสถานบันเทิงต่างๆ ช่วงนี้เป็นช่วงโควิดน่าจะดีขึ้น แล้วในกลุ่มของสถานบันเทิงเองก็จะมีส่วนของการป้องกันของฝ่ายปกครองในระดับอำเภอ เขาเข้าไปช่วยในการสอดส่องดูแลอยู่แล้ว ซึ่งมีทีมสหวิชาชีพ เรื่องของสถานบันเทิง คาราโอเกะก็ดี พวกนี้จะมีกลุ่มของทางกระทรวงแรงงานเข้าไปร่วมอยู่แล้วด้วย” ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าว
ด้าน นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของแรงงานข้ามชาติซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้บริบทการจ้างงานยังเปลี่ยนไปเป็นการจ้างแรงงานนอกระบบรวมถึงแรงงานข้ามชาติมากขึ้น ด้านหนึ่งเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อีกด้านหนึ่งด้วยข้อจำกัดทางกฎหมาย ทำให้แรงงานนอกระบบหรือแรงงานข้ามชาติ ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆ ได้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านและแรงงานในภาคเกษตร ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านแรงงานและการคุ้มครองสุขภาวะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี