แม่สอดป่วนหนักหลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศ 2 รายซ้อน ล่าสุดเป็นสาวไทยไปทำงานเมียนมา มีอาการไข้ขึ้นสูง รักษาไม่หาย ตัดสินใจลักลอบข้ามฝั่งมารักษาตัวในรพ.เอกชนก่อนพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวญาติพี่น้อง-จนท.นับสิบคน ขณะที่ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มชายแดนไทย-พม่า
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โควิด-19 ที่จ.ตากว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วย 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี ทำงานในประเทศเมียนมา เคยมีอาการป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดไลน์บอย รัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 16 พ.ย.63 แต่แพทย์ให้ยาแล้วกลับบ้าน
ต่อมาวันที่ 17-18 เดินทางมาทางชายแดนนอนพักที่บ้านส่วยโก๊กโก่ 2 คืน มีอาการป่วยหนักมาก จึงลอบข้ามแดนมาเขตไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.63 และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนพบโควิด-19 จากนั้นถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด พร้อมกักตัวญาติพี่น้องผู้ใกล้ชิดทั้งหมด 7 คน ในพื้นที่อำเภอแม่สอด ส่วนอีก 1 คนเป็นผู้ลี้ภัย สัญชาติเมียนมา อายุ 48 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลแม่สอดเช่นกัน รวมผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอด จำนวน 2 ราย ถือว่า เป็นผู้ป่วยในประเทศ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ที่บ้านอุ้มเปี้ยม ยังคงเข้มงวดการเข้า-ออกพื้นที่พักพิง และรอบๆศูนย์อพยพตลอด 24 ชั่วโมง
มีรายงานว่า สำหรับไทม์ไลน์ของสาววัย 17 ปีดังกล่าว ได้ลักลอบข้ามแนวชายแดนไทย-พม่า ผ่านช่องทางธรรมชาติ มาขึ้นฝั่งที่ อ.แม่ระมาด พร้อมญาติอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นมีรถตู้รับตัวไปส่งที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ในอ.แม่สอด ก่อนส่งต่อไปที่รพ.แม่สอด
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตาก ได้ส่งทีมสอบสวนโรคเร่งลงพื้นที่สอบสวนโรค และเร่งติดตามและหาตัวผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสตัวกับผู้ป่วยรายนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำญาติของสาวพม่าเข้ากักตัวในศูนย์กักตัวของทางราชการเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ รพ.เอกชนอีก 10 ราย ที่ทำงานในช่วงเวลาดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อด้วย ส่วนคนขับรถตู้กำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วนต่อไป
ด้านนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อที่ลักลอบเข้าประเทศมาแล้วก็มาอยู่ในศูนย์พักพิง 1 ราย แล้วส่งต่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด นั้น เราได้ปฏิบัติงานบูรณาการร่วมกัน ฝ่ายความมั่นคงกับฝ่ายปกครอง เพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่สุดในทุกมาตราการ ทางจังหวัดได้ให้มีการเพิ่มลวดหนามหีบเพลงเพื่อเป็นการป้องกัน จัดชุดลาดตระเวนป้องกันคนที่จะลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ในส่วนของการล็อกดาวน์หมู่บ้านเราปิดเป็นโซนๆ ห้ามเดินทางไปมาข้ามหมู่บ้านในศูนย์อพยพ ไม่ออกมาภายนอก สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ผู้ว่าฯตาก กล่าวว่า การตรวจหาเชื้อโควิด19 เชิงรุก บุคคลที่อยู่ในศูนย์ฯ กว่า100 คน ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด เรายังได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ในภาพรวมของในศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ รวมถึงศูนย์พักพิงอีก 2 แห่งของจังหวัดตาก ที่อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง ได้สั่งเพิ่มมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ให้เข้มข้นขึ้นเพราะมีผู้ในศูนย์อพยพเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ได้มีการสั่งการลงไปในทุกอำเภอฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด ทหาร ตำรวจ ชุด ชรบ. ให้เพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการลับลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่ยังอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด ที่เดินทางเข้าออกมาจังหวัดตากด้วย
"สำหรับพี่น้องที่ประชาชนมราเดินทางมาทำธุระ หรือจะมาเที่ยวจังหวัดตาก ยังคงได้มาตามปกติ แต่ขอให้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 สามหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ จังหวัดตากเรายังเป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่รอท่านมาเที่ยวชม เช่น น้ำตกทีลอซู ธรรมชาติที่สวยสวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกหลายแห่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านมาเที่ยวที่จังหวัดตาก"ผู้ว่าฯตาก กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในจ.ตากรายแรก เป็นชายชาวเมียนมา อาศัยอยู่ในศูนย์ผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก วัย 48 ปี ติดเชื้อโควิด จากการลักลอบเดินทางไปประเทศเมียนมากลับมาติดเชื้อโควิด ก่อนที่ศูนย์ฯดังกล่าวจะถูกล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้ออยู่ในเวลานี้ พร้อมกับปูพรมตรวจคัดกรองพื้นที่โซน 4 ภายในศูนย์ฯ ซึ่งมีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชาวเมียนมาอาศัยเกือบ 1 หมื่นคน
ล่าสุดนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ระบุว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก บุคคลที่อยู่ในศูนย์ฯ เกือบ 100 คน ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด ภาพรวมของศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ รวมถึงศูนย์พักพิงอีก 2 แห่งของจังหวัดตาก ที่อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง ก็ได้สั่งเพิ่มมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้เข้มข้นขึ้น เพราะมีผู้อาศัยในศูนย์อพยพเป็นจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี