วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘มท.2’ฝากทุกภาคส่วนลดอุบัติเหตุบนถนนให้เหมือนโควิด ห่วง‘สิงห์นักบิด’เจ็บ-ตายสูง

‘มท.2’ฝากทุกภาคส่วนลดอุบัติเหตุบนถนนให้เหมือนโควิด ห่วง‘สิงห์นักบิด’เจ็บ-ตายสูง

วันอังคาร ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 19.15 น.
Tag : สิงห์นักบิด มท2
  •  

24 พ.ย. 2563 ที่ รร.แม่น้ำ รามาดา พลาซ่า ย่านเจริญกรุง-บางคอแหลม กรุงเทพฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความตกลงร่วม (MOU) ว่าด้วยการขับเคลื่อนโครงการพัฒนากลไกการจัดการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดสู่อำเภอและตำบล ระหว่างศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร จันทบุรี เชียงราย ยโสธร ระยอง สมุทรสงคราม สุพรรณบุรีและสุราษฎร์ธานี กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นายนิพนธ์ กล่าวว่า แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย ในปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 1.9 หมื่นคน ลดลงจากปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.1 หมื่นคน และในปี 2563 ตลอดทั้งปีอาจเหลือเพียงประมาณ 1.6-1.7 หมื่นคน เนื่องจากมาตรการสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ดำเนินการในช่วงครึ่งปีแรก แต่หากมองความสุญเสียที่ผ่านมา พบว่ามีหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประชากรวัยเรียนและวัยทำงานเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ย่อมซ้ำเติมภาวะสังคมสูงวัย ที่ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 


“เรายังมีปัญหาที่จะเป็นภาระของสังคมคือคนที่พิการจากอุบัติเหตุอีกประมาณปีละ 5,000 ราย ไม่รวมคนบาดเจ็บที่จะต้องเสียค่ารักษาพยาบาล เป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ แล้วที่สำคัญคือเป็นเหตุให้ไปทำให้การบริการสาธารณสุขของประเทศไทยรู้สึกว่ามีความแออัดมากขึ้น เพราะคนที่เจ็บจากอุบัติเหตุแต่ละปีนับล้านคน ไปแย่งเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ส่วนนี้ก็เป็นปัญหาในเชิงสาธารณสุขของประเทศอีก” นายนิพนธ์ กล่าว

รมช.มท. กล่าวต่อไปว่า ตามปฏิญญามอสโก และปฏิญญาสต็อกโฮล์ม ซึ่งเป็นภาคีระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน มีความท้าทายคือภายในปี 2573 ประเทศไทยจะต้องลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงให้เหลือไม่เกิน 12 คนต่อ 1 แสนประชากร โดยเป้าหมายเบื้องต้นต้องลดให้เหลือ 16 คนต่อ 1 แสนประชากร ดังนั้นกระบวนการทำงานต้องปรับให้เข้มข้นมากขึ้น จากประเทศสู่จังหวัด อำเภอและตำบล เพื่อให้เกิดตำบลขับขี่ปลอดภัย 

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดประชุมและรายงานผลทุกๆ 3 เดือน นอกจากนี้ยังขยายผลไปถึงศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอ ให้ช่วยกระตุ้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อให้กลไกท้องที่และท้องถิ่นทำงานบูรณาการไปด้วยกัน ในลักษณะถอดบทเรียนจากการรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความร่วมมือกันทุกภาคส่วน และไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนอาสาสมัครต่างๆ และชุมชน ประสานกันอย่างเข้มแข็ง หากทำได้เชื่อว่าความสูญเสียจะลดลง

“ทั้งหลายทั้งปวงก็คือมุ่งที่จะลดการตายจากการขับขี่จักรยานยนต์เป็นข้อแรก เพราะไปดูตัวเลข ไปดูสถิติการตายบนท้องถนน อันดับแรกคือการตายจากการใช้รถมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นการลดปัจจัยเสี่ยงของการเสียชีวิตจากรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะเน้นเรื่องการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งเรากำหนดว่าน่าจะมีการสวมหมวกนิรภัย 100% ในกรณีขับรถจักรยานยนต์ ฉะนั้นการที่จะขอให้คนขับรถมอเตอร์ไซค์สวมหมวกนิรภัยให้ได้ 100% ต้องได้รับความร่วมมือจากครอบครัว ชุมชน โรงเรียน โรงงาน ในพื้นที่ในสถานประกอบการต่างๆ และการบังคับด้วยกติกาเมื่อขับขี่อยู่บนท้องถนนต้องสวมหมวกกันน็อก” นายนิพนธ์ ระบุ

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า จะทำอย่างไรให้คนขี่มอเตอร์ไซค์รู้สึกเคยชินว่าเมื่อนำรถออกสู่ท้องถนนต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เช่นเดียวกับยุคโควิด-19 ในปัจจุบันที่เมื่อคนจะออกจากบ้านสิ่งที่ขาดไม่ได้คือหน้ากากปิดปาก-จมูก นอกจากนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กควรเป็นสถานที่บ่มเพาะระเบียบวินัยว่าด้วยการปฏิบัติตามกฎจราจร เพราะเรื่องนี้ต้องปลูกฝังตั้งแต่อายุน้อยๆ จะมาฝึกตอนอายุมากๆ นั้นทำได้ยาก 

นอกจากนี้ อปท. ที่ดูแลถนนกว่า 6 แสนกิโลเมตร จะลดความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน จากจุดเสี่ยงในแต่พื้นที่ เช่น บริเวณทางโค้งที่มีต้นไม้บดบังทัศนวิสัย ได้อย่างไร รวมถึงการติดตั้งป้ายบอกความเร็ว ไฟส่องสว่าง เป็นต้น เพราะแต่ละชีวิตนั้นมีค่า ดังที่เคยมีการคำนวณว่า กว่าที่คนคนหนึ่งจะเรียนหนังสือจบแล้วออกมาเป็นวัยทำงาน รัฐต้องใช้งบประมาณถึง 10 ล้านบาท ดังนั้นการที่มีผู้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนปีละ 2 หมื่นราย เท่ากับรัฐต้องสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจไปถึงปีละ 2 แสนล้านบาท
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved