จับแล้วโจรอีแตะ! บุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ในห้างกลางเมืองแหลมฉบัง เดชะบุญพ่อโทรแจ้งตำรวจ ก่อนนั่งรถตู้โดยสาร หลบหนีไป จ.ระยอง ตำรวจไล่ล่าจนได้ตัวพร้อมของกลางครบ เจ้าตัวรับสารภาพทำไปเพราะทะเลาะกับเมีย หลังกดดันเรื่องเงิน
24 พ.ย.63 จากกรณีที่ คนร้าย สวมเสื้อยืดสีขาว สวมเสื้อคลุมสีเทา ยี่ห้อไนกี้ทับอีกชั้น สวมกางเกงยีนขายาว รองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายข้างสีดำ ซึ่งใช้อาวุธปืนแม็กกาซีน สีดำ ไม่ทราบขนาด ก่อเหตุจี้ร้านทอง โกลด์เด้น ไนน์ตี้ไนน์ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สร้อยคอทองคำ ขนาด 1 สลึง หายไปจำนวน 33 เส้น หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าวเพิ่มเติมที่นี่ : อุกอาจ! โจรบุกเดี่ยวกลางห้างทองชลบุรี กวาดสร้อยคอทองคำ36เส้น หลบหนี
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ สมหวัง รอง ผกก.สภ.แหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.แหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 สืบสวน ภ.จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันควบคุมตัวนายวรุณสวรรค์ หมากหลำ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/136 ม.7 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพช่างเชื่อมเหล็ก ซึ่งเป็นคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง โกลด์เด้น ไนน์ตี้ไนน์ ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลางเป็นเส้นคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 33 เส้น เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ และอาวุธปืนแม็กกาซีนปลอม จำนวน 2 กระบอก รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สปาร์ นาโน สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องสืบสวน สภ.แหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 30 นาที ก่อนควบคุมตัวออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อ่านข่าวเพิ่มเติมที่นี่ : ตำรวจแกะรอยโจรบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำ36เส้น กลางห้างแหลมฉบัง
ด้านนายวรุณสวรรค์ หมากหลำ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับภรรยา เกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงิน ส่งผลให้ตนเองเกิดความกดดัน และอารมย์ชั่ววูบ จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว โดยหลังจากที่ก่อเหตุก็ได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่ตลาดคลองถม บางละมุง ก่อนที่จะเดินย้อนกลับมานอนที่บ้านบริเวณหลังธนาคารกรุงไทย สาขาอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ต่อมาในช่วงเช้าไปนั่งรถยนต์ตู้โดยสารไปที่ จ.ระยอง ก่อนจะถูกจับกุมได้ในที่สุด
น.ส.อทิตยา ประเสริฐสังข์ อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ปกติแล้วประกอบอาชีพช่างเชื่อม ส่วนตนเองทำงานร้านเสริมสวย ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 วัน ตนเองได้มีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงิน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนกระทั่งมาทราบว่าก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง อ่านข่าวเพิ่มเติมที่นี่ : เปิดใจ! พนง.สาวร้านทอง หลังโจรบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำเผ่นหนี
ในขณะที่ พล.ต.ต.วีระ จิรวีระ ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการบูรณาการกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 สืบสวน ภ.จ.ชลบุรี ระดมกำลังกันเต็มที่ เช็กไทม์ไลน์เส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อของผู้ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาทาง สภ.แหลมฉบัง ระบุว่าลูกชายตนเองเป็นคนก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าคนร้ายได้นั่งรถยนต์ตู้โดยสารไปที่ จ.ระยอง แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไป จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ครบทุกเส้นคอทองคำ และอุปกรณ์ที่ใช้ในวันก่อเหตุ รวมถึงรถจักรยานยนต์ ที่คนร้ายลักขโมยมาใช้ในการหลบหนีได้อีกด้วย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนรีบนำตัวคนร้ายไปชี้จุดทิ้งรถจักรยานยนต์ บริเวณตลาดนัดคลองถม ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายกลับไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แหลมฉบัง แล้วแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ใช้ยานพาหนะในการหลบหนี แล้วส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี