‘สมศักดิ์’รับผิดพลาด
ปมตรวจยาเคบิ๊กลอต
ชี้ขาดองค์ความรู้ใหม่
รีบแถลงผลเร็วเกินไป
“สมศักดิ์” ยอมรับขาดองค์ความรู้ตรวจวัตถุต้องสงสัย ปมยาเค11.5 ตัน กลายเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต แจงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจยืนยันผล ไขข้อข้องใจ ด้าน ป.ป.ส.คาดถูกใช้อำพรางยาเค
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) แถลงข่าวชี้แจงกรณีการตรวจพิสูจน์วัตถุต้องสงสัยว่าเป็นยาเสพติด475 กระสอบ น้ำหนัก รวม 11.5 ตัน ซึ่งพบภายในโกดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากผลตรวจสอบเบื้องต้นจากชุดทดสอบพบว่าให้สารสีม่วง ที่มีลักษณะบ่งชี้ว่าเป็นเคตามีน ต่อมา ป.ป.ส.ได้นำวัตถุดังกล่าวไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่าเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต รวม 66 กระสอบ ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ว่า นายสมศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า มีความผิดพลาดในการตรวจสอบที่ภาคสนาม จึงทำให้เข้าใจว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเคตามีน เนื่องจากผลตรวจสอบเบื้องต้นพบมีสีม่วง
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ ป.ป.ส.ไม่เคยพบมาก่อนว่าสารไตรโซเดียมฟอสเฟตให้ผลการตรวจเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับเคตามีน อย่างไรก็ดี ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับและอาจจะยังแก้ไขไม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ส.และกระทรวงยุติธรรม หรือไม่ ตนน้อมรับที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และยอมรับผิดเพราะเป็นความผิดพลาดทางวิชาการที่หน่วยงานขาดองค์ความรู้ใหม่ๆ
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และป.ป.ส.ร่วมกันนำวัตถุดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของแต่ละหน่วยงานให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนที่มีนักวิชาการหรือหน่วยงานอื่นๆ ต้องการจะร่วมตรวจสอบหรือขอตัวอย่างไปตรวจด้วยก็ยินดี เนื่องจากเรื่องนี้ตนต้องการให้ประชาชนรับทราบความชัดเจนของผลตรวจ และยืนยันว่าของกลางทั้งหมดไม่ได้หายหรือมีการเคลื่อนย้ายไปไหน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนข้อสงสัยว่ารัฐมนตรีมีอำนาจในการเซ็นรับรองของกลางนั้น ตนยืนยันว่าตามระเบียบราชการไม่ได้ให้อำนาจรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องในการเก็บของกลางขณะที่สังคมสงสัยว่า ป.ป.ส.ด่วนตัดสินใจที่จะแถลงข่าวขาดความรอบคอบหรือไม่ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น
“ยอมรับว่าอาจจะเร็วเกินไปที่แถลงข่าวผลการจับกุมวัตถุต้องสงสัยแต่เมื่อป.ป.ส.ได้รับการประสานผลการจับกุมเคตามีนได้ที่ไต้หวัน และ ป.ป.ส.ได้สืบสวนจนพบแหล่งที่มา จึงเป็นความเชื่อมโยงที่ปฏิเสธไม่ได้ถ้าผมไม่ได้ไปแถลงข่าวก็ถือว่าบกพร่อง ซึ่งกรณีแบบนี้ทาง UNODC เคยแจ้งว่าปัญหาลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก ซึ่งในวันแถลงข่าว ผมก็ไม่ได้ฟันธง 100% ว่าเป็นเคตามีน” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นอกจากนี้ผลกระทบจากความเข้าใจผิดของคนในสังคมทำให้มีการนำข่าวไปเชื่อมโยงจนเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง นายสมศักดิ์ ระบุว่า ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจติดตามการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จทางคอมพิวเตอร์ โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้แทนคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด และตำรวจ บก.ปอท.ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเท็จและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
“ขอชี้แจงว่าการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งประชาชนที่แสดงความคิดเห็น สิ่งที่เป็นผลกระทบต่อกระทรวงยุติธรรมหรือ ป.ป.ส.นั้นยอมรับได้ ผิดก็ต้องยอมรับ แต่การสร้างความสับสนเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควร จึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบ” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายวิชัย กล่าวว่า ผลการตรวจวัตถุต้องสงสัยที่บ่งชี้ว่าเข้าข่ายเป็นเคตามีนในวันแถลงข่าว มี 2 หน่วยงานที่ร่วมตรวจ คือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และป.ป.ส.ซึ่งผลตรวจเป็นบวกเหมือนกันบ่งชี้ว่าเป็นยาเสพติด โดยผลการตรวจของ พฐ.ให้ผลสีส้ม ขณะที่ป.ป.ส.ให้ผลสีม่วง ซึ่งสารเสพติดที่ให้ผลสีม่วง ไม่ได้มีเฉพาะเคตามีนอย่างเดียวแต่มีอีก 2-3 ชนิดที่ให้ผลสีม่วง ยืนยันว่าสารไตรโซเดียมฟอสเฟตไม่ใช่สารเสพติด แต่เป็นสารที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์นมเพื่อไม่ให้ตกตะกอน
นายวิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนสารดังกล่าวนำเข้ามาจากที่ไหน หรือนำไปใช้ในกิจการใดนั้น เป็นอำนาจการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องขยายผลต่อไป แต่เชื่อว่ามีการนำมาใช้เพื่ออำพรางยาเสพติด หรือเคตามีเนื่องจากมีลักษณะทางกายภาพไม่แตกต่างกัน ทาง ป.ป.ส.ยังไม่มีข้อมูลของเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคยกระทำความผิด ส่วนที่ไม่มีการจับกุมผู้เช่าโกดัง เนื่องจากผู้เช่าหลบหนีไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามไปยังภูมิลำเนาเพื่อรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับในคดีที่เชื่อมโยงกับการจับกุมเคตามีนที่ไต้หวัน
นายวิชัย กล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้ ป.ป.ส.จะจัดสัมมนาเพื่อหาองค์ความรู้ในเรื่องสารเสพติดที่ให้ผลตรวจสีม่วง โดยจะร่วมกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ(ดีอีเอ) และ UNODC รวมทั้งสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อรวบรวมองค์ความรู้ใหม่ๆ อย่างช้าที่สุดคือภายในสัปดาห์หน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี