วันอาทิตย์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
จากภารกิจสุดท้ายของเรือหลวง สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทรงคุณค่าใต้ผืนทะเลไทย

จากภารกิจสุดท้ายของเรือหลวง สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทรงคุณค่าใต้ผืนทะเลไทย

วันพุธ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 09.27 น.
ปตท อ่าวไทย
  • Tweet

ปัญหาที่เกิดขึ้นใต้ท้องทะเลอาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับใครหลายคน การฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนนั้นยิ่งดูเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ดูจะใหญ่เกินกำลังนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง โครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเลที่เกิดขึ้นท่ามกลางความร่วมมือจากหลายภาคส่วนนี้สร้างผลลัพธ์ที่นอกจากจะคืนความสมบูรณ์กลับสู่ท้องทะเลอย่างยั่งยืนได้สำเร็จแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และอนุรักษ์ธรรมชาติไปพร้อมกันได้อีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2553 เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงเกิน 30.5 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ “ปะการังฟอกขาว” (Coral Bleaching) เมื่อ น้ำทะเลร้อน ปะการังตาย ผลกระทบจึงส่งต่อเป็นลูกโซ่แก่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เพราะแนวปะการังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และแหล่งหลบภัยของสัตว์ทะเล ซึ่งเกี่ยวพันอย่างยิ่งกับความอุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศของธรรมชาติใต้ท้องทะเล มาจนถึงมนุษย์ ซึ่งอาศัยพึ่งพาทะเลทั้งการประมงและการท่องเที่ยว เป็นแหล่งอาหาร แหล่งสร้างอาชีพ และรายได้ของคนจำนวนมาก

หนึ่งในแนวคิดเพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศที่นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลได้ประชุมร่วมกันที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในปีนั้น คือ “การสร้างแหล่งดำน้ำโดยมนุษย์” (Man-made dive sites) เพราะจากการศึกษาพบว่าหากแนวปะการังบริเวณใดได้รับความนิยมในการดำน้ำมาก ผลกระทบต่อปะการังย่อมสูงตามไปด้วย ขณะที่การปิดจุดดำน้ำหรือประกาศห้ามการท่องเที่ยวตามแนวปะการังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของคนในท้องถิ่นและธุรกิจท่องเที่ยวด้วย ดังนั้น หากสามารถสร้างแหล่งดำน้ำทดแทนได้ ก็จะช่วยลดผลกระทบต่อแนวปะการังธรรมชาติให้มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในทะเลไทย ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนให้เกิดโครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล โดยการศึกษาและพัฒนาการนำเรือรบหลวงมาจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวใต้ทะเล ที่จังหวัดชุมพรและจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กองทัพเรือ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตัวแทนผู้ประกอบการและชุมชนในพื้นที่ และภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภารกิจครั้งนี้ ปตท.สผ. ได้รับการสนับสนุนเรือหลวง 2 ลำ จากกองทัพเรือ คือ  เรือหลวงปราบ และเรือหลวงสัตกูด 

ด้วยเกียรติภูมิและขนาดของเรือเหมาะสมสำหรับการนำมาวางเป็นปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งดำน้ำสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งหลักเกณฑ์สำคัญของการเลือกพื้นที่วางเรือ คือต้องช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับแนวปะการังได้จริง และเป็นแหล่งที่นักดำน้ำสามารถเดินทางมาได้สะดวก และไม่ไกลจากแนวปะการังธรรมชาติ ซึ่งไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวเดิมมากนัก จากการศึกษาทั้งสภาพกระแสน้ำ ความขุ่นของน้ำ ลักษณะของพื้นท้องทะเล และจำนวนชนิดของสัตว์น้ำต่าง ๆ จึงกำหนดตำแหน่งวางเรือที่ เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะง่ามน้อย จังหวัดชุมพร

ที่เกาะเต่า จุดวางเรือคือบริเวณใกล้กองหินขาวซึ่งเป็นจุดดำน้ำสำคัญทางทิศตะวันตกของเกาะ และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์เกาะติดจำนวนมาก เช่น ปะการัง เห็ดทะเล ดอกไม้ทะเล กัลปังหา ปะการังดำ ฟองน้ำ ฯลฯ ส่วนที่ เกาะง่ามน้อย เป็นเกาะสัมปทานนกนางแอ่นมีผาหินปูนสูงชัน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมหาศาล และเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงในพื้นที่

หลังจากการวางเรือหลวงทั้ง 2 ลำในปี 2554 แล้ว ได้ทำการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ซึ่งผลการศึกษายืนยันว่าไม่พบผลกระทบต่อพื้นท้องทะเล สำหรับสัตว์เกาะติดและปลาทะเลยังคงมีสภาพเดิม รวมทั้ง ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสัตว์เกาะติดและประชากรปลา หลังจากผ่านไป 1 ปี พบว่ามีปลาเพิ่มมากกว่า 40 ชนิด และปัจจุบัน พบว่ามีชนิดของปลาเพิ่มขึ้น 60-70 ชนิด โดยเฉพาะบริเวณเรือหลวงปราบ จะพบฉลามวาฬได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับสัตว์เกาะติด มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ฟองน้ำเคลือบ และปะการังดำซึ่งเป็นสัตว์พันธุ์เด่น (Dominant Species)

นอกจากนี้ ในด้านการศึกษาด้านการใช้ประโยชน์และการจัดการแหล่งดำน้ำเรือหลวง พบว่าการนำเรือหลวงมาวางเป็นแนวปะการังเทียม เพื่อเป็นแหล่งดำน้ำแทนแนวปะการังธรรมชาตินั้น ได้รับผล ตอบรับที่ดีมาก ทุกเช้าบ่ายจะมีเรือหลายลำแวะเวียนมาจอด นำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำชื่นชมความงดงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล รวมถึงนักเรียนดำน้ำที่เข้ามาใช้เป็นสนามสอบดำน้ำอีกด้วย

ปัจจุบัน เรือหลวงปราบและเรือหลวงสัตกูด ได้กลายเป็นแหล่งดำน้ำที่คนทั่วโลกรู้จัก ความอุดมสมบูรณ์ของบรรดาสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดที่เข้ามาอาศัยบริเวณเรือ ช่วยพัฒนาให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ได้ปีละกว่า 59 ล้านบาท และกลายเป็นพื้นที่ศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล เพื่อแสวงหาแนวทางใหม่ในการอนุรักษ์ทะเลต่อไปในอนาคต นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท.สผ. ที่ผลลัพธ์โครงการที่ไม่ได้เพียงฟื้นฟูและรักษาทะเลไทยได้ตามความมุ่งหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชุมชนโดยรอบเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

  • Tweet

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เอาไม่อยู่แล้ว! 'หมอทศพร'โพสต์ถึง'ม็อบ 28 กุมภา' ไร้แกนนำ-ไม่รู้ใครเป็นใคร

มืดฟ้ามัวดิน! คอหวยแห่ขอเลขเด็ด วัดกุดแห่ให้เป็นงวดสุดท้าย

'ฟิลิปปินส์'ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19ลอตแรกจากจีนแล้ว

ประมวลภาพ'ม็อบ 28 กุมภา'บุกบ้าน'นายกฯตู่'

‘กุนซือไพศาล’ฟันเปรี้ยงม็อบชี้เป้า‘บิ๊กตู่’ครั้งแรก จับตา‘ซ่อนธงล้มเจ้า’หรือไม่

'อิหร่าน'เผยโควิด-19 ทำพยาบาลติดเชื้อกว่า 6.2 หมื่นราย

  • Breaking News
20:51 น. เอาไม่อยู่แล้ว! 'หมอทศพร'โพสต์ถึง'ม็อบ 28 กุมภา' ไร้แกนนำ-ไม่รู้ใครเป็นใคร
20:50 น. ใกล้หวยออก! คอหวยแห่ตีเลขเสาเอกทางหลวงฯ สังขะ จ.สุรินทร์
20:41 น. มืดฟ้ามัวดิน! คอหวยแห่ขอเลขเด็ด วัดกุดแห่ให้เป็นงวดสุดท้าย
20:32 น. 'ฟิลิปปินส์'ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19ลอตแรกจากจีนแล้ว
20:30 น. ประมวลภาพ'ม็อบ 28 กุมภา'บุกบ้าน'นายกฯตู่'
ดูทั้งหมด
  • Breaking News
20:51 น. เอาไม่อยู่แล้ว! 'หมอทศพร'โพสต์ถึง'ม็อบ 28 กุมภา' ไร้แกนนำ-ไม่รู้ใครเป็นใคร
20:50 น. ใกล้หวยออก! คอหวยแห่ตีเลขเสาเอกทางหลวงฯ สังขะ จ.สุรินทร์
20:41 น. มืดฟ้ามัวดิน! คอหวยแห่ขอเลขเด็ด วัดกุดแห่ให้เป็นงวดสุดท้าย
20:32 น. 'ฟิลิปปินส์'ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19ลอตแรกจากจีนแล้ว
20:30 น. ประมวลภาพ'ม็อบ 28 กุมภา'บุกบ้าน'นายกฯตู่'
ดูทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อีสาน’อากาศเย็นถึงหนาว ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 2 เมตร

‘อีสาน’อากาศเย็นถึงหนาว ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 2 เมตร

21 ก.พ. 2564

“กรมอุตุนิยมวิทยา” รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 “ภาคอีสาน” มีอากาศเย็นถึงหนาว “ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก กทม.” มีอากาศเย็นในตอนเช้า “ยอดดอย-ยอดภู” มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด “อ่าวไทยตอนล่าง” มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

‘หนาว’หวนคืน ไทยอุณหภูมิลด1-4 องศาฯ

‘หนาว’หวนคืน ไทยอุณหภูมิลด1-4 องศาฯ

29 ม.ค. 2564

“กรมอุตุนิยมวิทยา” รายงาน “ภาคอีสาน” อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส “ภาคกลาง ตะวันออก กทม.” ลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ด้าน “ภาคใต้” มีฝน ขณะที่ “ฝุ่นละออง-หมอกควัน” สะสมลดน้อยลง

มวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุม ‘เหนือ-อีสาน’อุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ

มวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุม ‘เหนือ-อีสาน’อุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ

28 ม.ค. 2564

“กรมอุตุฯ” รายงาน “มวลอากาศเย็น” ระลอกใหม่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนคืนนี้ (28 ม.ค.64) ทำ “ภาคเหนือ-อีสาน” อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส “ภาคกลาง ตะวันออก กรุงเทพฯ” ลดลง 1-3 องศาเซลเซียส “ฝุ่น-หมอกควัน” ยังมีบริเวณ “ภาคเหนือ อีสาน กลาง” ขณะที่ “ภาคใต้” มีฝนเพิ่มขึ้น

‘ไทยตอนบน’อุณหภูมิลด 4-6 องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรง

‘ไทยตอนบน’อุณหภูมิลด 4-6 องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรง

17 ม.ค. 2564

“กรมอุตุนิยมวิทยา” ระบุ ความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนในวันนี้ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นลง ลมแรง อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส “อ่าวไทยตอนล่าง” คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งช่วงวันที่ 17-20 มกราคม 2564

‘เหนือ’อุณหภูมิลด 4-6 องศาฯ ‘อีสาน กลาง ตอ. กทม.’อากาศเย็น

‘เหนือ’อุณหภูมิลด 4-6 องศาฯ ‘อีสาน กลาง ตอ. กทม.’อากาศเย็น

12 ม.ค. 2564

“กรมอุตุนิยมวิทยา” ระบุ “ภาคเหนือ” อากาศหนาว-ลมแรง อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส “ภาคอีสาน กลาง ตะวันออก กทม.” อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณ “ยอดดอย-ยอดภู” มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ “อ่าวไทยตอนล่าง” มีคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่งถึงวันที่ 13 มกราคม 2564

ไทยตอนบนอุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง

ไทยตอนบนอุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง

11 ม.ค. 2564

“กรมอุตุนิยมวิทยา” รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส “ยอดดอย-ยอดภู” มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ “อ่าวไทยตอนล่าง” คลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 13 ม.ค.64

อุตุฯประกาศฉบับ7 ‘ไทยตอนบน’หนาวเย็น-‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรงถึง12ม.ค.

อุตุฯประกาศฉบับ7 ‘ไทยตอนบน’หนาวเย็น-‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรงถึง12ม.ค.

10 ม.ค. 2564

อุตุฯประกาศฉบับ7 ‘ไทยตอนบน’หนาวเย็น-‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรงถึง12ม.ค.

‘4ภาค-กทม.’อุณหภูมิลด1-2องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรง

‘4ภาค-กทม.’อุณหภูมิลด1-2องศาฯ ‘อ่าวไทย’คลื่นลมแรง

10 ม.ค. 2564

“กรมอุตุฯ” ระบุ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง “ยอดดอย-ยอดภู” อากาศหนาวถึงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ “ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก” รวมถึง “กทม.-ปริมณฑล” อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส “อ่าวไทย” คลื่นลมแรง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved