นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา สยามคูโบต้า เกิดแนวคิดตั้ง“โครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn)” โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมให้เกษตรกรทำเกษตรปลอดการเผา ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้หลังเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าวตอซังข้าว และใบอ้อย โดยนำนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร(Machinery Solutions) และองค์ความรู้ด้านการเกษตร (Knowledge Solutions) ภายใต้องค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจรมาประยุกต์ใช้เพื่อจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อเกษตรในรูปแบบปลอดการเผา สอดคล้องกับเป้าหมายภาครัฐลดเผาในพื้นที่การเกษตรให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2565 สยามคูโบต้าจึงมุ่งเผยแพร่องค์ความรู้ปลอดการเผาผ่านกิจกรรมรณรงค์และสัมมนาโครงการในจ.สุพรรณบุรี เชียงใหม่ และมหาสารคาม พร้อมทั้งลงพื้นที่ส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งจังหวัดปลอดการเผา ในพื้นที่เกษตรเป้าหมาย 12 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ เชียงใหม่ เลย หนองคาย ร้อยเอ็ด มุกดาหาร พะเยา กำแพงเพชร สระแก้ว และราชบุรี
ในปีนี้ สยามคูโบต้าริเริ่มความร่วมมือโครงการ ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับจ.มหาสารคามและอุบลราชธานี และสานต่อโครงการให้เห็นผลต่อเนื่อง โดยลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ในจ.ศรีสะเกษ ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้แทนจำหน่ายคูโบต้าในจ.ศรีสะเกษ เพื่อผลักดันให้ศรีสะเกษ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่พร้อมเป็นจังหวัดต้นแบบขับเคลื่อนโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ภายใต้แนวคิด “ศรีสะเกษ เมืองต้นแบบปลอดการเผานอกจากนี้ โครงการ“เกษตรปลอดการเผา”ยังเดินหน้าสนับสนุนตลาดรับซื้อฟางข้าวในพื้นที่ ด้วยจ.ศรีสะเกษ มีตลาดรับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีศักยภาพ จากพื้นที่เพาะปลูกข้าวเฉลี่ยกว่า 3,148,433 ไร่ คูโบต้าจึงวางเป้าหมายส่งเสริมพื้นที่ซื้อขายฟางข้าวระหว่างเกษตรกรกับผู้รับซื้อ ผ่านการสร้างความร่วมมือกับตลาดรับซื้อวัสดุเหลือใช้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งสหกรณ์ในจ.ศรีสะเกษ ที่ต้องการฟางข้าวหลังเก็บเกี่ยวกว่า 120.15 ล้านก้อน เพื่อนำไปเป็นอาหารปศุสัตว์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลภายในพื้นที่ ที่ต้องการฟางประมาณ 8.89 ล้านก้อน นำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี