ยึดทรัพย์180ล้าน
เครือข่ายยานรก‘หนูเฉิน’
สมศักดิ์ยัน6เดือนเห็นผล
ป.ป.ส.ร่วม ตร.ยึดทรัพย์ เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ “หนูเฉิน”ร่วม 180 ล้านบาท ฟอกเงินค้ายาเปิดเป็นโรงไม้แปรรูปบังหน้า ขณะที่ในที่ประชุมสภา สส.พท.ตั้งกระทู้ จี้ถาม รมว.ยุติธรรมปมยาเค11.5ตัน สมศักดิ์ ลั่นขอเวลา 6 เดือนเห็นผล เน้นยึดทรัพย์ ตั้งเป้า6พันล้าน
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.)พร้อมกำลัง นำหมายศาล เข้าตรวจค้นโรงไม้แปรรูปบริษัทซันเดย์ เวิลด์ เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่9ซอยสุวินทวงศ์5/3แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.หลังจากสืบทราบว่าถูกใช้เป็นสถานที่ฟอกเงินของเครือข่ายนายฐาปนันทน์ ธรรมรัตน์ธาดาหรือหนูเฉิน ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ
ทั้งนี้สำหรับการตรวจค้นดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนางหลิน ชาล์ อายุ 34 ปี หนึ่งในขบวนการค้ายาเสพติดนายฐาปนันทน์ การตรวจค้นพบว่าโรงงานดังกล่าวมีลักษณะเป็นโกดัง 2 หลัง มีไม้แปรรูปจำนวนมาก ที่บริเวณสำนักงานชั้น 2 พบกล่อง 4ใบ ภายในพบเงินสดสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ 3.2 ล้านดอลล่าร์ หรือ เกือบ100ล้านบาท ถูกมัดและบรรจุในกล่องพัสดุ ปิดเทปกาว วางบนโต๊ะใน ลักษณะเหมือนเตรียมส่งไปยังสถานที่ต่างๆ,เงินฝากในบัญชีธนาคารกว่า 30 ล้านบาท,บ้านและโฉนดที่ดิน 2 แปลง และรถยนต์2คันรวมมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท
นายวิชัย กล่าวว่าจากข้อมูลทางการสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 6 พบว่านางหลิน มีหน้าที่ดูแลเรื่องเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดในเครือข่ายของนายฐาปนันทน์ และบัญชีธนาคารของนางหลิน มีเงินจาก 2 บริษัท แบ่งเป็นที่เเม่สอด จ.ตาก และที่นำมาเช่าโกดังเปิดเป็นโรงค้าไม้ เป็นเวลา 2 ปี จากนั้นจะนำเงินไปเปลี่ยนเป็นสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ก่อนจัดส่งเป็นพัสดุไปทางภาคเหนือ โดยมีคนมารับเงินไปประเทศเมียนมา ที่ทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางด้านการเงิน
อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าบัญชีของนางหลิน มีเงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท และเคยโอนเงินไปธนาคารที่เมียนมา มาแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท เครือข่ายนี้ถูกจับกุมไว้ได้แล้ว 10 คน ยังคงหลบหนีอีก 2 คน คือนายฐาปนันทน์ และนายยง วงศ์สว่างกุล
ด้าน ว่าที่ร.ต.ธนกฤตกล่าวว่าการเข้ายึดทรัพย์ครั้งนี้ ยังเป็นการขยายผลจากจับกุมนายสกล การุณรักษ์ และ นายสมโชค เนียมสกุล พร้อมของกลางไอซ์1,500 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ซึ่งเงินสดของกลางที่ยึดได้จะนำไปตรวจสอบว่าเป็นธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐฯ แท้หรือไม่ และต้องตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของโรงไม้แปรรูปแห่งนี้ เพื่อเตรียมขยายผลจับกุมให้ครบทั้งขบวนการ
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ ถือเป็นการเปิด‘ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด’ครั้งที่ 6/2563 ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่โดยนำกำลังเข้าตรวจสอบเป้าหมาย 13 จุด ใน 4 จังหวัดได้แก่ตาก เชียงใหม่ นนทบุรีและกทม.
อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐสภา นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้สดถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กรณีการตรวจยึดเคตามีน 11.5 ตัน แต่ภายหลังปรากฏว่าผลตรวจกลับเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ทำให้คนทั้งประเทศเกิดข้อสงสัย และทำให้ประเทศไทยขาดความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติงานของรัฐบาล และ ป.ป.ส.โดยนายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญอย่างสูงสุดในการปราบปรามยาเสพติด ยืนยันด้วยสถิติและตัวเลขหลายอย่าง และเพิ่มแนวทางการดำเนินการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ
“ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันคิกออฟการปราบปรามยาเสพติดแนวทางใหม่ สิ่งที่เราดำเนินการด้านยาเสพติดในอดีตไม่สามารถสาวถึงผู้ค้ารายใหญ่ได้แต่ละปียึดทรัพย์ได้ไม่ถึง 600 ล้านบาท เราจะเปลี่ยนเป็นการปราบปรามให้สิ้นซากด้วยการยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดให้ได้ ซึ่งตนจะทำให้ได้ 6,000 ล้านบาท”นายสมศักดิ์ ย้ำ
และยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการตรวจสอบเคตามีน จากชุดทดสอบ แต่ไม่ได้ผิดพลาด เพราะประมาทเลินเล่อแต่อย่างใด ส่วนการเก็บของกลาง ตนได้สอบถามทางป.ป.ส.แล้วยืนยันว่าเป็นไปตามรูปแบบสากลทุกประการและได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการป.ป.ส.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการขนย้ายเคตามีน ให้สาธารณชนรับทราบทุกขั้นตอน ส่วนการตรวจสอบสารที่ล่าช้า เพราะมีของกลางจำนวนมาก มีสารที่ใช้อำพราง คือ ไตรโซเดียมฟอสเฟต ซึ่งคล้ายเคตามีน เป็นการพบครั้งแรกในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายในการถามกระทู้สด นางมนพรได้สอบถามถึงการย้ายสถานที่ตรวจสอบของกลางว่าเหตุใดจึงไม่มีการปิดพื้นที่ก่อน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าระบบรัดกุมพอหรือไม่ ตนเห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลวทุกด้านทำให้นายสมศักดิ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตอนแรกก็ดีแต่สุดท้ายก็มากระแนะกระแหนนายกฯ สำหรับเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ขอเวลาอีก 6 เดือน ว่าจะเป็นไปตามแนวทางที่พูดไว้หรือไม่ จากนั้นนางมนพร ได้ประท้วงขอให้นายสมศักดิ์ถอนคำพูดที่ว่าตนกระแนะกระแหน ซึ่งนายสมศักดิ์ยอมถอนคำพูดดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี