ฝนตกถล่มหนักภาคใต้

ท่วม‘พัทลุง-สงขลา’อ่วม

ภาคใต้ฝนตกหนักต่อเนื่อง พัทลุงน้ำท่วมขยายวงกว้างบ้านเรือน ถนนหลายสายจมน้ำ ปริมาณฝนสะสมบนเทือกเขาบรรทัด มีมากไหลหลากผ่านลำน้ำสายต่างๆ ได้เกิดน้ำท่วมถนนกาญจนวนิช เส้นทางหาดใหญ่-สงขลา สายเก่าทั้งสองฝั่ง ต้องปิดการจราจรเป็นระยะ ภาคใต้ อ่วมน้ำท่วมทางหลวง3จังหวัด ‘พัทลุง-สตูล-สงขลา’รวม7แห่งระดับน้ำสูง 5-30ซม.

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพฝนตกต่อเนื่องกระจายเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ล่าสุดสถานการณ์การน้ำท่วมได้ขยายวงกว้างขึ้น ปริมาณน้ำฝนหลากท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ชะมวง ต.โตนดด้วน ในเขตเทศบาลตำบลควนขนุน และเทศบาลตำบลหนองพ้อ อ.ควนขนุน โดยเฉพาะถนนสายสี่แยกโพธิ์ทองเข้าตัวอำเภอควนขนุนจาก มีน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ ระดับน้ำประมาณ 30 ซม รถเล็กสามารถผ่านได้ ส่วนถนนจากสี่แยกโพธิ์ทอง เข้าตัว อ.ศรีบรรพต ช่วงหน้าวัดล้อ มีสภาพน้ำท่วมขังเช่นกัน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ต่อเนื่อง สาเหตุเพราะ เจ้าหน้าที่ได้มีการเปิดปะตูระบายน้ำฝายชลประทานท่าแนะ ทั้ง 3 บาน หลังปริมาณน้ำในฝายเพิ่มสูงต่อเนื่อง

นอกจากนั้นปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคกชะงาย อำเภอเมือง ตำบลบ้านพร้าว อ. ป่าพะยอมและน้ำยังไหลผ่านถนนสายเพชรเกษมช่วงพัทลุง - ตรัง ฝั่งขาออกเมืองพัทลุง บริเวณบ้านม่วงลูกดำ รถเล็กสามารถผ่านได้

ในพื้นที่ จ.พัทลุง ท้องฟ้ายังมืดครื้ม หลายพื้นที่ยังมีสภาพฝนตก โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง มีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากลงมา จังหวัดได้มีประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่มีบ้านเรือนอาศัยในที่ลุ่มต่ำ ริมแหล่งน้ำ ให้เพิ่มความระมัดระวังน้ำป่าหลากโดยเฉพาะจุดเสี่ยงภัยให้ขนย้ายข้าวของไว้ที่สูงเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งให้คอยติดตามรับฟังคำพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามนายอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองพันทหารชิ่งที่ 401และ 402 ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านโพธิ์ และ หมู่ 8 บ้านข่อยม้า ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 100 ครัวเรือน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้เกิดฝนตกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนกาญจนวนิช เส้นทางหายใหญ่-สงขลา สายเก่า บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 19 หน้าชุมชนเคหะหาดใหญ่ 2 เขตรอยต่อระหว่าง ต.น้ำน้อยกับ ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ โดยน้ำได้ท่วมขังบนถนนทั้งสองฝั่งทั้งฝั่งขาเข้า อ.เมืองสงขลาและฝั่งขาเข้า อ.หาดใหญ่ ระดับน้ำสูง 30-40 เมตร การสัญจรลำบากโดยเฉพาะรถเก๋งและรถจักรยานยนต์และต้องวิ่งผ่านจุดน้ำท่วมอย่างช้าๆ โดยมีกำลังตำรวจ สภ.คอหงส์ และกู้ภัยท่าข้ามมาคอยอำนวยความสะดวกและบางช่วงเวลาก็ต้องปิดเส้นทางขาเข้า อ.หาดใหญ่ ตามระดับที่ขึ้นลง เพราะฝนยังคงตกๆหยุดๆพร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เดินทางจากอ.หาดใหญ่ไป อ.เมืองสงขลา เลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนลพบุรีราเมศวร์ สายใหม่แทน

ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สงขลา ท้องฟ้ามืดครึ้มมีฝนตกเนื่องอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากได้ตลอดเวลา

ทางด้าน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ได้รายงานสถานการณ์ น้ำท่วมและดินสไลด์ ในโครงข่ายทางหลวง เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พ.ย.63 พบว่า น้ำท่วม 3 จังหวัด รวม 7 แห่ง การจราจรผ่านได้ 7 แห่งดังนี้ 1.จ.พัทลุง 4 แห่ง ได้แก่ ทล.4 เขาพับผ้า-พัทลุง อ.เมือง ประกอบด้วย ช่วง กม.ที่ 1,154+900-1,155+200 ระดับน้ำสุง 15 ซม. และ ช่วง กม.ที่ 1,156+600-1,156+800 ระดับน้ำสูง 5 ซม. และ ทล.4187 สี่แยกโพธิ์ทอง-ควนขนุน อ.ควนขนุน ช่วง กม.ที่ 0+800-1+500 น้ำสูง 20 ซม. และ ช่วง กม.ที่ 2+400-2+600 น้ำสูง 10 ซม.

2. จ.สตูล 1 แห่ง คือ ทล.406 ปากจ่า-ค่ายรวมมิตร อ.ควนเนียง ช่วง กม.ที่ 26+500-26+650 น้ำสูง 20 ซม. และ 3. จ.สงขลา 2 แห่ง คือ ทล.408 เกาะยอ-ทุ่งหวัง อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 181+000-181+500 น้ำสูง 20 ซม. และ ทล.407 คลองหวะ-ควนหิน อ.หาดใหญ่ ช่วง กม.ที่ 13+700-14+300 น้ำสูง 30 ซม. อย่างไรก็ตามทล.ได้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือเครื่องจักร โดยเฉพาะเตรียมสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) กรณีหากเกิดทางขาด สะพานขาด และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือนป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณปลายแหลมมลายู ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27-28 พ.ย.63