29 พฤศจิกายน 2563 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาส รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ 1 กรณีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ทำให้ระดับน้ำในลุ่มแม่น้ำ 3 สายหลัก คือ ลุ่มน้ำโก-ลก มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.37 ม. ลุ่มน้ำสายบุรี มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4.41 ม. และลุ่มน้ำบางนรา มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.61 ม. ทำให้มีพื้นที่ประสบภัยใน 4 อำเภอ คือ อำเภอจะแนะ จำนวน 2 ตำบล , อำเภอระแงะ จำนวน 3 ตำบล , อำเภอเจาะไอร้อง จำนวน 3 ตำบล , อำเภอบาเจาะ จำนวน 4 ตำบล รวมมีพื้นที่ประสบภัย 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 2,251 คน 3,621 ครัวเรือน
โดยยังไม่มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ความเสียหายในด้านทรัพย์สินมีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 1 หลัง ในด้านความเสียหายทางการเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินการช่วยเหลือและสนับสนุนเรือท้องแบน และถุงกระสอบบรรจุทรายให้แก่พื้นที่ประสบภัยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการให้ความช่วยเหลือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทุกภาคส่วน โดยอำเภอได้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความช่วยเหลือเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้มีหนังสือสั่งการนายอำเภอทุกอำเภอให้ปฏิบัติงานเชิงรุก เข้าถึงพื้นที่ โดยเน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และติดตามสถานการณ์จากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
ด้านนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 พร้อมคณะได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในจุดต่างๆ พร้อมกล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีฝนตกในจังหวัดนราธิวาสปริมาณเพิ่มขึ้น และมีฝนกระจายทั่วทุกอำเภอในจังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำหลักของจังหวัดนราธิวาส คือ ลุ่มน้ำโก-ลก , ลุ่มน้ำบางนรา และลุ่มน้ำสายบุรีมีปริมาณน้ำสูงขึ้น จึงได้แจ้งเตือนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสไปยังประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังและระดับน้ำที่สูงขึ้นและอาจล้นตลิ่ง โดยเฉพาะที่ลุ่มน้ำโก-ลก และลุ่มน้ำบางนรา สำหรับที่คลองตันหยงมัสซึ่งเป็นคลองสาขาของแม่น้ำบางนราถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มประมาณ 2 วัน ปริมาณน้ำจะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้มีการเตรียมการตามข้อสั่งการ กำหนดพื้นที่ที่มีความเสี่ยง น้ำท่วมซ้ำซาก เป็นพื้นที่ที่ต้องมีการตั้งเครื่องมือในการรองรับสถานการณ์ก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสำนักงานชลประทานที่ 17 จะเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีเครื่องมือในการสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มาติดตั้งก่อนที่จะมีเหตุมีการสูบพร่องน้ำในพื้นที่ออกก่อน ในด้านการเผชิญเหตุได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดต่างๆ เพื่อระบายน้ำ และพร่องน้ำในพื้นที่ โดยจะพยายามพร่องน้ำเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งมีการสูบน้ำวันละ 20 ชั่วโมง ทุกวันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ถือว่ายังไม่น่าห่วงมากนัก อาจมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบ้างแต่พื้นที่โดยรอบยังอยู่ในสภาวะปกติ
เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วย‘โควิด’รายใหม่นราธิวาส ลอบกลับจากมาเลเซีย “ผู้ว่าฯนราธิวาส”ฮึ่ม! หากยังมีการลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ อาจ “ล็อกดาวน์-ปิดช่องทางเข้าออก” 3 อำเภอชายแดน
13 มกราคม 2564 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง และคลื่นล
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด หลังมีฝนตก
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 กรมป้องกันและ
"กรมชลประทาน"เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่น เดินทางลง
วันที่ 9 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมีหลายอำเภอต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมฉับพลันจากสาเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการ
9 มกราคม 2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมปร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี