อุทาหรณ์! โผล่อีกเหยื่อแชร์อุดรฯทยอยแจ้งความถูกโกง ยอมรับ‘โลภ’ลืมยั้งคิด
30 พฤศจิกายน 2563 ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจาก ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ “บ้านออมเงินออมทอง บ้านสามสหาย” มีผู้เสียหายเป็นหญิงชาว จ.อุดรธานี 3 ราย เข้ามาแจ้งความ โดยให้การว่าโดนโกงแชร์ แชร์ออมเงิน แชร์ออมทอง ชื่อ “บ้านวรรณเดือนดาว” หรือ “บ้านสามสหาย” หลังจากที่หลงเล่นแชร์วงดังกล่าว ได้รับความเสียหายคนละหลายหมื่นบาท แยกเป็น น.ส.เอ (นามสมมุติ) เสียหาย 268,399 บาท , น.ส.บี (นามสมมุติ) เสียหาย 164,000 บาท และ น.ส.ซี (นามสมมุติ) เสียหาย 99,000 บาท รวมค่าเสียหาย 528,399 บาท
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ถ่ายเอกสารหน้าเพจเฟซบุ๊กของวงแชร์ดังกล่าว พร้อมเอกสารหลักฐานการโอนเงินให้ท้าวแชร์ พบว่า ท้าวแชร์คนที่ 1.น.ส.วรรณ อยู่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู , คนที่ 2. น.ส.ดาว อยู่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู และคนที่ 3. น.ส.เดือน อยู่ ต.วัดธาตุ อ.เมือง จ.หนองคาย
ผู้เสียหาย ร่วมกันเปิดเผยว่า เริ่มมาเล่นแชร์หลังจากเห็นรุ่นพี่ที่ทำงานเล่น แล้วได้เงินกลับมา ตอนแรกก็ได้เล่นแชร์ทองกับรุ่นพี่ได้กลับมาอยู่ 2-3 วง ซึ่งเห็นรุ่นพี่มาโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า มีแชร์ออมเงิน ตนเลยได้ทักไปถามว่าได้อย่างไร รุ่นพี่ตอบกลับมาว่าเงินต้น 1,000 บาท หลังจากนั้น 10 วัน จะได้เงินกลับคืนมารวมทั้งดอกเบี้ย 1,130 บาท ตนจึงตัดสินใจลงทุนไป ช่วงแรกๆก็ได้เงินกลับมาจริง ตนลงทุนไป 10,000 บาท หลังจากนั้น 10 วัน ได้เงินกลับมา รวมทั้งดอก 11,300 บาท หลังจากนั้นตนก็ลงทุนเพิ่มไปก็ยังได้มาตลอด จนมาถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ตนจะได้เงินกลับมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 แต่พอมาถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ท้าวแชร์โพสต์ปิดบ้านแชร์ในเฟซบุ๊ก จากนั้นก็ติดต่ออะไรไม่ได้เลย
ทั้งนี้ ลงทุนไปทั้งแชร์ทองและแชร์เงินรวมทั้งหมด 9 หมื่นกว่าบาท ได้กำไรกลับมาอยู่ประมาณ 4-5 หมื่นบาท หลังจากท้าวแชร์ปิดเฟซบุ๊กไป ก็มีคนเริ่มส่งข้อความมาบอกต่อกันในกลุ่ม โดยท้าวแชร์อยู่ที่ จ.หนองคาย หนองบัวลำภู และชลบุรี ซึ่ง น.ส.เดือน กับ น.ส.ดาว เป็นฝาแฝดกัน ที่ผ่านมาตนมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการโกง เพราะทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี ดูแล้วไม่คิดจะเป็นคนมาทำอะไรแบบนี้ จึงทำให้มีความมั่นใจในระดับหนึ่งพอสมควร ซึ่งผู้เสียหายกลุ่มอุดรธานี-หนองบัวลำภู ที่สามารถรวมกลุ่มกันได้ตอนนี้มีอยู่ 107 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายในกลุ่มที่แจ้งความไปแล้วส่วนหนึ่ง คิดว่าคงจะมีคนทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่มอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงเชื่อแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้ามีข่าวออกมาบ่อยมาก ผู้เสียหาย กล่าวว่า พวกตนก็เห็นข่าวอยู่ แต่เพราะเป็นคนที่ทำงานด้วยกันมานาน และรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ทำให้เชื่อใจแบบสนิท ซึ่งลักษณะแชร์แบบนี้เหมือนกับ “แชร์แม่มณี” ซึ่งตนไม่ทราบว่าผลกำไรเป็นอย่างไร แต่แชร์นี้ให้ดอกเบี้ยน่าจะมากกว่าของ “แชร์แม่มณี” ซึ่งเงินที่พวกตนเอาไปลงทุนเป็นเงินที่เก็บเอาไว้ ไม่ได้ไปกู้มา พวกตนลงทุนไปก็เพราะความอยากได้ดอกเบี้ยที่สูง เพราะได้กลับมาครั้งแรกง่าย ก็พากันดีใจ ก็เลยลงทุนไปอีกเรื่อยๆ ตอนนี้ท้าวแชร์ทั้ง 3 คนที่ทราบยังอยู่ในประเทศ และไม่ได้ไปไหนไกล เพราะท้าวแชร์ทั้ง 3 คน มีลูกยังเล็กอยู่ จึงคิดว่าคงจะไม่ได้ไปไหนไกล
“อยากจะฝากคนที่เล่นแชร์ และกำลังจะลงทุนไปเล่นว่าอย่าโลภ แต่คนเราพอเห็นคนเล่นได้เงินมาง่าย และด้วยสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี เมื่อเห็นได้เงินเร็ว ก็ขาดความยั้งคิดไปนิดหนึ่ง ก็เสียดายเงินที่ลงทุนไปอยู่ แต่มันเป็นไปแล้วคงจะต้องยอมรับ ถึงตอนนี้แล้วไม่คิดว่าจะได้เงินคืน เพราะดูแล้วคงจะไม่ได้คืน แต่ยังหวังอยู่บ้างที่จะได้เงินคืน เพราะมีคนบอกว่าเงินที่เขาเอาไปซื้อบ้าน ซื้อรถ กินหรู เราเห็นในเฟซของเขา ที่อาจจะได้คืนมาในส่วนนี้”
ด้าน ร.ต.อ.ชวนัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความ และลงบันทึกไว้เป็นหลัก หลังจากนั้นจะนัดผู้เสียหายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะดูยอดความเสียหายที่แท้จริง จากนั้นจะรวบรวมเอกสารหลักฐาน รายงานผู้บังคับบัญชา เนื่องจากมีความเสียหายจำนวนมาก และน่าจะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม หลังจากนั้นจะได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี