ปลัดอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นำกำลังจับพระสายป่าวัดดังซุกยาบ้าในกล่องไม้ขีด เสพจนหลอนพูดสับสนเดินวนไปมา เผยสาเหตุที่ถูกจับเนื่องจากเวลาเมายามีมีอารมณ์ทางเพศจึงขอมีอะไรกับเมียของวัยรุ่นที่มั่วสุมด้วยกัน ทำให้วัยรุ่นไม่พอใจนำเรื่องไปเล่าให้สายลับฟัง
วันที่ 1 ธ.ค.63 เมื่อเวลา 13.00 น. นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ได้มอบหมายให้นายมนตรี จารุธำรง ปลัดอำเภอบ้านแพน ชำนาญการพิเศษ เจ้าพนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นกุฏิพระภายในวัดสายธรรมยุตแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 5 เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง หลังส่งสายล่อซื้อยาบ้าจากพระรูปหนึ่ง ทราบภายหลังว่าชื่อพระสมชาย เจริญชัย (ธัมมสาโร) อายุ 55 ปี พื้นเพเป็นชาวบ้านหมู่ 5 เทศบาลตำบลบ้านแพง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 32 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องไม้ขีดไฟ วางอยู่บนหัวนอนในกุฏิ พร้อมเงินล่อซื้อจำนวน 300 บาทอยู่ในกระเป๋าผ้าคาดเอว และค้นเจอหลอดไม้ซาง 4 อัน ไฟแช็ค 2 อันที่มีไว้สำหรับเสพยาบ้าจึงนำตัวพระสมชายไปสึกกับเจ้าอาวาสวัดฯ จากนั้นก็พาตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลบ้านแพงพบเป็นฉี่สีม่วง จึงดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อ
จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา นายมนตรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งชื่อหลวงพี่สมชายมีพฤติกรรมเสพและจำหน่ายยาบ้าแก่วัยรุ่นในชุมชน จึงทดสอบข้อเท็จจริงด้วยการมอบเงินสดจำนวน 200 บาทให้สายลับไปล่อซื้อยาบ้าได้มา 3 เม็ด
หลังทราบพฤติการณ์ชัดเจน จึงประสานกับนายปัญญา ประดิษฐ์บุญ ปลัดอำเภอฯ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงร่วมกันวางแผนล่อซื้อ โดยนำเงินจำนวน 300 บาท ถ่ายสำเนาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบให้สายลับไปล่อซื้อ พร้อมจัดกำลัง อส.ซุ่มดูอยู่บริเวณทางเข้าวัด สายลับได้เดินไปหาพระสมชายที่กุฏิ ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับยาบ้าจำนวน 4 เม็ด ห่อด้วยถุงพลาสติกสีเขียวจึงส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากนั้นชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้น พระสมชายเห็นเจ้าหน้าที่มีท่าทีตื่นเต้นลุกลี้ลุกลน และยอมรับว่าเป็นผู้เสพยาบ้าและเพิ่งจะมอบยาบ้าให้ชายหนุ่มคนนั้นจริง แต่อ้างว่าตนเองไม่ใช่ผู้จำหน่าย สาเหตุที่ให้ยาบ้าไปเพราะเขามาขอแบ่งสูบ
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตัวพบเงินจำนวน 300 บาทอยู่ในกระเป๋าผ้าคาดเอวของพระสมชาย เมื่อเข้าไปในกุฏิพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกซ่อนอยู่ในกล่องไม้ขีดไฟวางอยู่บนหัวนอน พระสมชายจนมุมจึงยอมรับสารภาพแต่ไม่เปิดเผยที่มาของยาบ้า จึงนำตัวสึกดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสมชาย คือ 1.จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย 2.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย แต่นายสมชายหัวหมดไม่ยอมเซ็นชื่อลงในบันทึกการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่นายสมชายถูกควบคุมตัวอยู่ในที่ว่าการอำเภอบ้านแพง ยังมีอาการหลอนยาวิ่งวนไปเวียนมาอยู่ไม่เป็นที่ และให้การวกวนสับสน พอจับใจความได้ว่าอุปสมบทเป็นพระอยู่ที่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ รวมแล้วประมาณ 3 พรรษาต่อมาช่วงหลังออกพรรษาได้เดินทางมาขอจำวัดอยู่ที่วัดสายธรรมยุตชื่อดังในเขตเทศบาลตำบลบ้านแพง เจ้าอาวาสเห็นว่าเป็นคนในชุมชนจึงอนุญาตให้อยู่ด้วย
ระหว่างที่จำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้ก็ไปเจอกับวัยรุ่นคนข้างวัดที่พาเมียมาขอข้าววัดกินประจำ จึงมีความสนิทสนมกันโดยปริยาย เมื่อมีความคุ้นเคยนายสมชายอ้างว่าวัยรุ่นคนนั้นได้ชวนทดลองเสพยาบ้า และมั่วสุมกันในกุฏิเรื่อยมา ส่วนเงินที่ไปซื้อยาบ้ามากักตุนก็ได้มาจากการรับกิจนิมนต์ของญาติโยม แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะทราบว่าเป็นผู้จำหน่ายรายย่อยที่รับยาบ้ามาจากนายทุน
แหล่งข่าวเผยด้วยว่านายสมชาย นำยาบ้าอีกจำนวนหนึ่งไปฝังดินซ่อนไว้ในบริเวณวัด แต่ไม่ยอมปริปากบอกความจริง เหตุที่ความลับแตกเพราะนายสมชาย หลังเสพยาบ้า จะมีอารมณ์จึงขอมีอะไรกับเมียของวัยรุ่นที่มั่วสุมกัน ทำให้วัยรุ่นไม่พอใจจึงนำเรื่องไปเล่าให้สายลับฟัง จึงนำมาสู่การล่อซื้อและจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวสองผัวเมียวัยรุ่นคู่นี้มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี