วัด ในความคิดของแต่ละคน ซึ่งจะเป็นสถานที่ ไว้ทำบุญ ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เท่านั้น แต่ตรงกันข้าม กับทางคณะผู้บริหารจังหวัดพิจิตร ต้องทำให้วัด ในจังหวัดพิจิตร นอกจากทำบุญ ประกอบพิธีสำคัญทางประพุทธศาสนา ต้องเป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งรายกาย จิตใจ รวมทั้งแหล่งความรู้ให้กับประชาชน และเยาวชนด้วย  เพื่อให้สมกับที่พิจิตรเป็นเมืองแห่งเกจิพระดังที่ผู้คนนับถือ รวมทั้งให้สมกับเป็นเมืองแห่งธรรมะ 

การที่จะทำการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การพัฒนาดีขึ้น ต้องมีรางวัล สิ่งของล่อใจ  ซึ่งจะเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับคนไทยในปัจจุบัน เพื่อแลกกับการพัฒนาประโยชน์ถึงขีดสุด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร  จึงจัดโครงการประกวด “พิจิตร วัดร่มเย็น” ขึ้น โดยให้ทางวัด 479 แห่งทั่วจังหวัดพิจิตร ให้มีการจัดการวัด ให้เป็นระเบียบน่าเข้าไปปฏิบัติธรรม หรือจัดกิจกรรมในวัด  โดยอาศัยความร่วมมือจากชาวบ้านทุกภาคส่วนในท้องถิ่นเพื่อให้วัดกลับมาเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนเช่นในอดีต และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมจังหวัดพิจิตร

นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า”  การจัดโครงการพิจิตรวัดร่มเย็น ประจำปี ๒๕๕๖ แก่ พระสังฆาธิการ และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ทุกอำเภอในจังหวัดพิจิตร  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์ความร่วมมือให้วัดทุกวัดปลอดสิ่งเสพติด อบายมุข ให้เป็นสถานที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นวัดน่าอยู่ ประชาชน มีส่วนร่วมในท้องถิ่น มีความสามัคคี  มีบริเวณสถานที่ สะอาด ร่มรื่น 

 ซึ่งการประกวดวัดร่มเย็น ทางจังหวัดพิจิตร จะมีคณะกรรมการตรวจสอบ และร่วมการลงคะแนน โดยมีเกณฑ์การประเมินในการประกวด  5 มิติ แบ่งข้อปลีกย่อย ถึง 20 ตัวชี้วัด อาทิ เช่น วัดต้องปลอดจากสิ่งเสพติดและอบายมุข การพนัน  รวมถึงต้องพัฒนาวัดให้สวยงาม ร่มรื่น น่าอยู่ น่ามอง ตัวพระสงฆ์เองต้องประกอบกิจของสงฆ์ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า อีกทั้งวัดต้องเป็นแกนนำมวลชุมในการใช้พื้นที่ของวัดทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ รวมถึงดึงประชาชน และเยาวชน ในการมีส่วนร่วมทำกิจกรรมของทางวัด 

โดยทางคณะกรรมการ ที่ได้จัดการจัดประกวดระดับอำเภอ  ชิงเงินรางวัลที่ ๑ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ที่๒รางวัล ๔๐,๐๐๐ บาท ที่ ๓ รางวัล ๓๐,๐๐๐ บาท และระดับจังหวัด ชิงเงินรางวัล ที่ ๑  ๓๐๐,๐๐๐.-บาท ที่๒รางวัล ๒๐๐,๐๐๐ บาท ที่ ๓ รางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท และรางวัลชมเชย ๒ รางวัลๆละ ๕๐,๐๐๐ บาท โดยวัดที่ผ่านการประกวดชนะเลิศในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ จะต้องจัดทำเป็นโครงการเพื่อพัฒนาวัดและโครงการดังกล่าวจะจัดเป็นโครงการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีเพื่อพัฒนาวัดทุกกวัดในจังหวัดพิจิตรได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง

นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวต่อว่า”  ทางคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฎดังนี้ รางวัลที่ 1 ได้แก่ วัดสำนักขุนเณร หมู่ที่ 1 ตำบลสำนัก ขุนเณร อำเภอดงเจริญ ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ วัดท่าบัวทอง หมู่ที่ 2 ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ วัดฆะมัง หมู่ที่ 2 ตำบลฆะมัง อำเภอเมืองพิจิตร ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่วัดเครือเขาโค้ง หมู่ที่ 4 ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก และ วัดสามง่าม หมู่ที่ 1 ตำบล สามง่าม อำเภอสามง่าม ได้รับเงินรางวัลวัดละ 50,000 บาท

สำหรับโครงการ วัดร่มเย็น ที่ทางจังหวัดพิจิตร จัดทำโครงการขึ้น แต่ทางจังหวัดพิจิตร ยังไม่หยุดนิ่ง ยังคงเดินหน้า พัฒนาวัดที่เหลือ ตามทั่วทุกมุมเมืองของจังหวัดพิจิตร เพื่อให้มีการพัฒนา ครอบคลุมทุกวันที่มีอยู่ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้ง กาย วาจา ใจ มุ่งเน้นให้ประชาชน  เยาวชน เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ในยามเกิดภัยต่างๆในยามวิกฤติ ให้วัดเป็นที่พึงพา อยู่คู่กับสังคมไทย เพื่อให้สมกับที่พิจิตรเป็นเมืองแห่งธรรมะ ด้วย

อุทัย กลัดแก้ว