มวลน้ำไหลเข้าท่วม‘ตรัง’
6อำเภอเดือดร้อนหนัก
ทะเลสาบสงขลายังวิกฤติ
น้ำล้นจมบ้านชาวประมง
ภาคใต้ยังไม่พ้นวิกฤติ มวลน้ำมหาศาลในแม่น้ำตรังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสองฝั่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนจ.สงขลา น้ำยังท่วมพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา ทั้ง 5 อำเภอ”อนุชา”รับบัญชานายกฯดูแลผู้ประสบภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง เมื่อเช้าวันที่ 5 ธันวาคมว่า น้ำในแม่น้ำตรังได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสองฝั่งแม่น้ำตรังหลายตำบล ในอำเภอเมือง โดยเฉพาะที่พื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำตรัง และเป็นพื้นที่รับน้ำจาก อ.รัษฎา ห้วยยอดและนาโยง มีมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่มาจากนครศรีธรรมราช ไหลบ่าเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงดึกคืนที่ผ่านมา ทำให้ถนนสายนาตาล่วง-บ้านหลังเขา หมู่ 1 ต.หนองตรุด บริเวณสะพานเบี่ยงซึ่งกำลังก่อสร้างคลองลัดน้ำ ถูกตัดขาดรถทุกชนิดไม่สามารถผ่าน เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและมีน้ำท่วมสูง 50-60 เซนติเมตร บ้านเรือนประชาชนในที่ราบลุ่มถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร และยังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชลประทานฯ ต้องปิดประตูระบายน้ำที่เพิ่งสร้างเสร็จทั้ง 2 ช่องทาง เพราะเกรงว่ากระแสน้ำจะซัดประตูระบายน้ำและสะพานเบี่ยงจนขาด
นายพิศาล เต็งเฉี้ยง กำนันตำบลหนองตรุด อ.เมืองตรังกล่าวว่า น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมตำบลหนองตรุดตั้งแต่ 1 ทุ่มคืนที่ผ่านมา แต่ท่วมหนักประมาณเที่ยงคืน โชคดีที่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้ชาวบ้านขนของหนีน้ำไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วเช่นเดียวกับที่หมู่ 3, 4, 5 และ 6 ต.บางรัก อ.เมือง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าฝนจะหยุดตกมาเป็นวันที่ 2 แล้ว ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีกหลายหมู่บ้าน กระแสน้ำยังกัดเซาะท่อประปา การประปาส่วนภูมิภาค เสียหาย ทำให้เช้านี้ ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลบางรักไม่มีน้ำประปาใช้ ล่าสุด จ.ตรัง มีน้ำท่วม 6 อำเภอ คืออำเภอเมือง, นาโยง, รัษฎา, ห้วยยอด, วังวิเศษ และกันตัง
ทะเลสาปสงขลายังวิกฤติ
ส่วนที่จังหวัดสงขลา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา ทั้ง 5 อำเภอ คืออำเภอระโนด, กระแสสินธ์, สทิงพระ, สิงหนคร และควนเนียง มานานเกือบ 1สัปดาห์ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย หลายหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องปรับตัวใช้สภาพชีวิตอยู่ในสภาพน้ำล้อมรอบ โดยเฉพาะที่ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ หมู่บ้านริมทะเลสาบสงขลา ทั้ง 9 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมหนักสุด ชาวบ้านต้องใช้เรือเข้า-ออกหมู่บ้าน หลายคนต้องขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำมาไว้นอกบ้าน โดยมีทหารจิตอาสาภัยพิบัติ และชุดบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 ค่ายพระปกเกล้าและเจ้าหน้าที่อบต.คูขุด ลงพื้นที่ ช่วยขนย้าย เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันนี้เพราะมีมวลน้ำจากลำน้ำสาขาที่ไหลลงทะเลสาบสงขลาหนุนท่วม
อนุชารุดเยี่ยมผู้ประสบภัย
เวลา 08.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลระโนด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ รับฟังปัญหา ติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผูประสบภัย และลงเรือเยี่ยมให้กำลังใจมอบถุงยังชีพแก่ผู้ป่วยติดเตียง
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับผู้ประสบอุทกภัยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด มีความกังวลเป็นห่วงผู้ประสบภัย และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้นอกจากนำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีมามอบให้กับประชาชนแล้ว เพื่อต้องการมาดูให้เห็นถึงความเดือดร้อน รวมถึงรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากพี่น้องประชาชน ไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้รับทราบ เพื่อหาแนวทางแก้ไขทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในนามตัวแทนของรัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าทุกภาคส่วนร่วมถึงกำลังทหาร และ สส.ในพื้นที่ที่ร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคีเวลาที่เกิดอุทกภัย ทุกคนต่างแสดงความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนหากต้องการความช่วยเหลือในด้านใดขอให้แจ้งผ่านไปยังผู้นำท้องถิ่น หรือส่วนราชการในพื้นที่ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำความเดือดร้อนของประชาชนไปแก้ไขปัญหา อะไรที่อยู่ความรับผิดชอบที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา หากปัญหาไหนไม่สามารถแก้ไขได้ให้รวบรวมส่งไปยังส่วนกลางต่อไป ยืนยันรัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชน จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
กรมธนารักษ์ช่วยชาวนราธิวาส
ผู้สื่อข่าวรายงานโดยศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์จังหวัดนราธิวาส ล่าสุดระดับน้ำในลุ่มแม่น้ำ 3 สายหลักคือลุ่มน้ำโก-ลกที่จุดวัดสะพานลันตู อำเภอสุไหงโก-ลก เพิ่มขึ้น ระดับน้ำ 9.32 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 1.12 ม.ลุ่มน้ำสายบุรี ที่จุดวัดบ้านท่าเรือ อำเภอรือเสาะ ระดับน้ำ 19.32 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 5.18 ม.และลุ่มน้ำบางนรา ที่จุดวัดบ้านตันหยงมัส อำเภอระแงะ ระดับน้ำ 15.28 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.30 ม.โดยสภาพอากาศโดยทั่วไป มีเมฆมากและมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20/55 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง2เมตร
จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นราธิวาส ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนขังท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ อ.ระแงะบ้างพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมซ้ำซากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่ม
วันนี้นายเฉลย วงษ์บัณฑิตย์ ธนารักษ์พื้นที่นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นราธิวาส ลงพื้นที่สำรวจความเสียให้กำลังใจและช่วยเหลือประชาชนมอบอาหารแห้ง น้ำดื่มจำนวน50ชุดใน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม ลุยน้ำไปมอบให้ชาวบ้านที่ยากจนและคนชราทีไม่สะดวกจะออกมารับด้วยตนเองได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกี่ยวกับน้ำดื่มในเบื้องต้นอีกด้วย
เปิดโปรแกรมนายกฯเยือนนครศรีฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ มอบนโยบาย และตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ โดยมีคณะร่วมเดินทาง อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
โดยเวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะจะนั่งรถทรานซ์ฟอร์เมอร์ ตรวจติดตามสถานการณ์ โดยเวลา 09.00 น. จะพบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัยและมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ และในเวลา 10.20 น. นายกรัฐมนตรีจะพบปะประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหูล่อง ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯในเวลา 13.00 น.
วอนรัฐออกมาตราการช่วยด่วน
น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้มีโอกาสลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในการช่วยเหลือแก่ประชาชนในภาคใต้ ทั้งจากที่ได้รับมอบหมายจากประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย และการลงพื้นที่ร่วมกับ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยและตรวจสอบสภาพความเสียหายในเบื้องต้น พบว่าอุทกภัยครั้งนี้การมีปริมาณน้ำมากและกระแสน้ำหลากได้พัดทำลายบ้านเรือนประชาชนให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
น.ส.ศิริภา กล่าวว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งภาครัฐนอกจากจะต้องเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยจัดหาอาหาร ยารักษาโรคและอื่นๆ แล้ว ตนเห็นว่ายังมีสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ถนนหนทาง สะพาน รวมไปถึงบ้านเรือนในพื้นที่ได้ถูกกระแสน้ำท่วมขัง บางหลังถูกน้ำพัดทำลายเสียหายจนไม่สามารถใช้งาน และกลับเข้าอาศัยได้ ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งออกมาตรการโดยเฉพาะการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้อย่างถ้วนหน้า เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับเข้าอาศัยได้ภายหลังน้ำลดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี