มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดสัมมนา “Advance Composite 3D Printing: The Disruptive Manufacturing Solution” เพื่อขับเคลื่อนและเตรียมพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีวัสดุและการพิมพ์สามมิติที่กำลังจะเปลี่ยนไป การสัมมนามีผู้เข้าร่วม 200 คนจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติโดยใช้วัสดุคอมโพสิตซึ่งเป็นการผลิตสมัยใหม่ ทั้งนี้ตั้งเป้าให้มีการนำไปใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มากขึ้นในอนาคต โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 17 ธ.ค. 2563 ณ อาคารเคเอ็กซ์ (KX-KnowledgeExchange) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถนนกรุงธนบุรี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่
รศ.ดร.สนติพีร์ เอมมณีอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนายกสมาคมไทยคอมโพสิต กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยหลากหลายด้านมีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้วัสดุคอมโพสิต กับ 3D Printingไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอากาศยาน อุปกรณ์ทางการทหารและการป้องกันประเทศ ชิ้นส่วนการผลิตหุ่นยนต์และเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ โครงสร้างยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่และอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้อยู่ในกลุ่มS-Curve ตามนโยบาย Thailand4.0 ของภาครัฐ ความรู้ในเทคโนโลยีด้านการพิมพ์สามมิติด้วยวัสดุคอมโพสิตจึงเป็นการช่วยผลักดันภาคการผลิตเข้าสู่การพัฒนาที่สอดคล้องกับS-Curve ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติด้วยวัสดุคอมโพสิตอีกหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมสันทนาการและกีฬา อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในโรงงานและการเกษตร เป็นต้น โดยบริษัท ผู้ประกอบการและสถาบันที่เข้าร่วมงานมีความครอบคลุมทุกประเภทอุตสาหกรรมจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต
“เรามุ่งหวังว่าภาคอุตสาหกรรมจะได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน และนำไปสู่ความเข้าใจการกระบวนการผลิตที่มีความทันสมัยและตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น กระบวนการผลิตนี้จะสร้างความคล่องตัว ความคุ้มค่า ชิ้นงานมีสมบัติทางกายภาพที่ดี ในงานสัมมนาครั้งนี้มุ่งเน้นการพื้นฐานเทคโนโลยีด้านวัสดุ “คอมโพสิต” เนื่องจากวัสดุมีความ “แข็งแรงสูง” มี“น้ำหนักเบา” ใช้งานได้ “หลากหลาย”สามารถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ดี โดยเป็นการนำวัสดุ ตั้งแต่ 2 ชนิดมาผสมกัน เช่นนำเส้นใยชนิดต่างๆ มาผสมกับวัสดุที่เป็นโพลิเมอร์ หรือเลือกนำวัสดุอื่นๆ มาใช้ร่วมกันให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน และเมื่อนำมาผนวกกับการผลิตด้วยเทคโนโลยี “3D Printing” ยิ่งทำให้สามารถสร้างรูปแบบและผลิตชิ้นงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น”รศ.ดร.สนติพีร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี