ผัวยันเมียไม่ใช่เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด
ค่ำวันที่ 11 ธ.ค. 2563 ตำรวจเข้าจับกุม นางมาลี วรสวัสดิ์ หรือฉายาเจ๊ปากแดง อายุ 40 ปี พร้อมด้วย นายสุวพรรดิ์ดำคลองตัน อายุ 46 ปี สามีของนางมาลี และลูกน้องอีก 1 คน ที่บ้านพักเลขที่ 127 หมู่ 9 บ้านผาสุข ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่า นางมาลี เป็นเจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด โดยจะส่งลูกน้องไปทำร้ายร่างกายผู้ที่กู้ยืมเงินไปแล้วผิดนัดชำระคืน
นายสุวพรรดิ์ ยืนยันว่า ภรรยาไม่ใช่เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหดแต่อย่างใด ส่วนกรณีรุมทำร้าย นายสกุล ศรีรักษาส.อบต.บ้านคำนกกก หมู่ 1 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพราะนายสกุลยืมเงินตนไปเล่นการพนันแล้วไม่ยอมใช้คืน อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานข่าวอีกว่า เคยมีปลัดอำเภอถูกย้ายเพราะไปขวางทางการรับส่วยจากเจ๊ปากแดง
สลดหนุ่มขี่จยย.ชนบ้านน็อกดาวน์ดับ
เช้ามืดวันที่ 12 ธ.ค. 2563 ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิตเข้าตรวจสอบเหตุ จยย. ชนบ้านน็อกดาวน์ที่ยื่นออกมาจากรถบรรทุก ที่บริเวณหน้าวัดนาวง ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานีเมื่อไปตรวจสอบพบศพ นายกฤษดา วีระพงศ์ อายุ 30 ปี และใกล้กันพบ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ทะเบียน ษลพ 131กรุงเทพฯ ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่ โดยญาติเล่าว่า ผู้ตายเพิ่งไปเยี่ยมเพื่อนและกำลังขี่ จยย. จะกลับบ้านย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
ด้าน นายทวี วงศ์เกษตร อายุ 47 ปี คนขับรถบรรทุก6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 71-1757 นครราชสีมา ที่บรรทุกบ้านน็อกดาวน์มาจาก จ.สระบุรี ให้การว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มีจยย. ขับสวนมาชนโครงเหล็กบ้านที่ยื่นออกจากตัวรถจนเสียชีวิตดังกล่าว ในเบื้องต้นตำรวจได้นำตัวนายทวีไปที่ สภ.ปากคลองรังสิตเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
เก๋งชนจยย.สาวใหญ่วัย52โชคดีแค่เจ็บ
วันที่ 12 ธ.ค. 2563 ตำรวจ สภ.สรรคบุรี ฝากเตือนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนขอให้ระมัดระวังเมื่อจะจอดรถ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดอุบัติเหตุได้จากการบดบังทัศนวิสัย ซึ่งมีที่มาจากกรณี นางสมเจตร รอบรู้ อายุ 52 ปี ขี่ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ทะเบียน กมต 890 ฉะเชิงเทรา ชนกับรถเก๋งยี่ห้อมาสด้าสีแดง ที่บริเวณแยกทางเข้าวัดค้างคาว หรือวัดธรรมิกาวาส ต.โพงาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และกล้องวงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ชัดเจน
อุบัติเหตุครั้งนี้เคราะห์ดีที่ นางสมเจตรบาดเจ็บไม่มากซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสวมหมวกกันน็อก และถูกนำตัวส่ง รพ.สรรคบุรี รักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว โดยสาเหตุคาดว่าผู้บาดเจ็บที่กำลังขี่ จยย. จะข้ามแยกตรงไปอีกฝั่ง มองไม่เห็นรถเก๋งที่แล่นมาจากทางขวา เพราะมีรถยนต์อีกคันหนึ่งจอดสวนเลนด้านขวา จึงถูกชนเข้าดังกล่าว
พบศพกลางถนนคาดจยย.เกิดอุบัติเหตุ
ตำรวจ สภ.บ้านฉาง เข้าตรวจสอบที่บริเวณเกาะกลางถนนสายตัดใหม่บูรพาพัฒน์ ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พบศพ นายโชติวัฒน์ ทองโสม ชาว อ.บ้านฉาง จ.ระยอง สภาพสวมกางเกงขาสั้นบ็อกเซอร์ลายดอก เสื้อยืดสีดำ มีบาดแผลถูกกระแทกที่ใบหน้า ใกล้กับพบ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า สีขาว ทะเบียน กถ 5241 ระยอง ล้มอยู่กลางถนนฝั่งขาเข้าแยกเนินกระปรอก
ที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยการชนกับขอบเกาะกลางแล้วรถจยย.ครูดไปกับถนนเป็นทางยาว โดยอาสากู้ภัย ให้การว่ามีพลเมืองดีมาแจ้งว่าขับรถยนต์ผ่านไปพบ จยย. ล้มอยู่ เมื่อจอดรถสังเกตก็พบร่างผู้ตายอยู่บนเกาะกลางถนนเบื้องต้นตำรวจยังต้องรอผลตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งหนึ่ง
จับไอ้บอยขโมยรถหลังเพิ่งพ้นโทษ
วันที่ 12 ธ.ค. 2563 เวลา 01.00 น. ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จับกุมตัว นายศราวัฒน์ สมสง หรือบอย อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้-ไอ สีขาวม่วง ทะเบียน งฉท 793 สงขลา ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอย 18 ถ.รัตนอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง จยย. คันดังกล่าว ถูกขโมยมาจากบ้านเลขที่ 91 ซอย 5 ถนนรัตนอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อ 2 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้
นายศราวัฒน์รับสารภาพว่า ตนเคยถูกจำคุกในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 แต่เมื่อกลับไปบ้านก็น้อยใจเพราะนอกจากที่บ้านไม่เคยไปเยี่ยมแล้วยังถูกตำหนิว่าไม่ทำงาน จึงขโมยรถเพื่อประชดชีวิต ทำมาแล้วหลายครั้ง รถทุกคันที่ขโมยได้จะเป็นรถที่เจ้าของเสียบกุญแจทิ้งไว้ โดยนำไปขายในราคาถูกคันละไม่กี่พันบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี