“ผบช.สตม.” นำแถลง “สืบ ตม.1” รวบอดีตพ่อค้ายาไอซ์ชาวตะวันออกกลาง ไม่เลิกพฤติกรรม ผันตัวเป็นมาเฟียชาวต่างชาติย่านใจกลางเมือง
15 ธันวาคม 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติ
สืบเนื่องจากกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (กก.สส.บก.ตม.1) ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ให้ทำการสืบสวนหาข้อมูลบุคคลต่างด้าวชาวตะวันออกกลางที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายโดยมี พฤติการณ์เกี่ยวกับข้องกับยาเสพติด หรือตั้งตัวเป็นกลุ่มแก๊งมาเฟีย เรียกเก็บค่าคุ้มครองบุคคลต่างชาติ
ต่อมา พ.ต.ท.ธนากร นิ่มมะโนรอง ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ สว.กก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.ต.ธงค์ โตอนันต์ สว.กก.สส.บก.ตม.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 สืบสวนหาข้อมูลบุคคลต่างด้าวชาวตะวันออกกลางที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยมีพฤติการณ์เกี่ยวกับข้องกับยาเสพติดหรือตั้งตัวเป็นกลุ่มแก๊งมาเฟีย เรียกเก็บค่าคุ้มครองบุคคลต่างชาติ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงลงพื้นที่สืบสวน และเก็บข้อมูลโดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มแก๊งชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เทียบเคียงจากข้อมูลประวัติบุคคลต่างด้าวที่เคยถูกดำเนินคดีโดยมีฐานข้อมูลอยู่ในระบบสาระสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสืบค้นจากคดีค้างเก่าในท้องที่เขตสถานีตำรวจนครบาลทั่วกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้รับข้อมูลจากสายลับที่ตรงกับข้อมูลการสืบสวนว่า มีบุคคลชาวตะวันออกกลางมีพฤติกรรมน่าสงสัย
สำหรับบุคคลดังกล่าวคือ นาย MOHAMED อายุ 37 ปี สัญชาติอียิปต์ มักจะแอบอ้างกับบุคคลต่างชาติ โดยเฉพาะในรายที่ไม่มีหนังสือเดินทาง หรือรายที่ประกอบธุรกิจโดยที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานว่า ตนสามารถดูแลคุ้มครองให้บุคคลต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยนั้นอยู่ได้ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้ามาจับกุมได้ แต่ทุกคนจะต้องแลกด้วยจ่ายเงินเป็นค่าคุ้มครองให้กับตนเป็นรายเดือน หากใครไม่ยินยอมก็จะถูกข่มขู่และทำร้าย บุคคลต้องสงสัยดังกล่าวยังตระเวนไปตามตามแหล่งสถานบันเทิงในเขตบริเวณกรุงเทพมหานคร เพื่อจำหน่ายยาเสพติดโดยเน้นกลุ่มคนต่างชาติ และยังมีข้อมูลสำคัญอีกว่าบุคคลดังกล่าวเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายไอซ์โดยผิดกฎหมาย เมื่อปี 2560 มาแล้ว
ต่อมาจึงได้มีบุคคลต่างด้าวที่มีลักษณะคล้ายกับเป้าหมายเดินทางมายังบริเวณตามที่สายลับแจ้งไว้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆ ที่อยู่ในราชอาณาจักร จากการสอบถามเจ้าตัวยอมรับว่าตนคือ นาย MOHAMED อายุ 37 ปี สัญชาติ อียิปต์ แต่ตนเองไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางได้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเชิญตัวมายัง กก.สส.บก.ตม.1 เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับระบบสาระสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
จากข้อมูลบุคคลต่างด้าวรายนี้อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากำหนด เป็นเวลา 1,772 วัน เจ้าตัวยอมรับว่า ตนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายยาไอซ์โดยผิดกฎหมาย เมื่อปี 2560 มาก่อน ชุดจับกุมจึงควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะทำการสืบสวนขยายผล เพื่อตัดวงจรมาเฟียชาวต่างชาติต่อไป โดยจับกุมได้ที่เหตุร้านแห่งหนึ่ง สาขาเดอะไนน์ ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินการต่อไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี