วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
น้ำท่วมภาคใต้ในปีนี้ แม้ปัจจุบันสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลง หลายพื้นที่เข้าสู่สภาพปกติแล้วก็ตาม แต่ได้ทิ้งปัญหาที่จะต้องนำมาถอดบทเรียนแก้ไข โดยเฉพาะน้ำท่วมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และอีกหลายจังหวัดที่สถานการณ์รุนแรงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี
“เมืองคอน” หรือ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนกลาง ตัวเมืองเป็นพื้นที่ราบ อยู่ใกล้ชิดกับเขาหลวง
ที่มีลักษณะสูงชัน ดังนั้นหากเกิดฝนตกหนักบริเวณเขาหลวง น้ำจะไหลกระจายลงสูงตัวเมืองผ่านทางคลองต่างๆทันที ก่อนที่ออกสู่ทะเล ซึ่งคลองเหล่านี้จะสามารถรับน้ำได้รวมกันประมาณ 268 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ต่อวินาที แต่ในฝนตกหนักช่วงที่ผ่านมา มีน้ำปริมาณน้ำไหลผ่านมากกว่า 689 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงทำให้เกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ดังกล่าว
ฝนตกในปีนี้ไม่ได้ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมเฉพาะที่นครศรีธรรมราชเท่านั้น ยังมีน้ำท่วมอีกหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และสงขลา เป็นต้น แต่พื้นที่ที่น่าจะนำมาถอดบทเรียนเป็นแบบอย่างใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน คือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ปีนี้น้ำไม่ท่วมเลย ทั้งๆที่ได้รับอิทธิพลจากพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันไม่ต่างจากพื้นที่อื่นๆของภาคใต้
ทำไม อ.หาดใหญ่ น้ำไม่ท่วม?
ฟันธงได้เลยว่า เพราะโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้อำเภอหาดใหญ่รอดพ้นจากวิกฤติน้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้
โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขณะนี้เสร็จเพียงระยะที่ 1 เท่านั้น แต่ก็สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้อย่่างเป็นรูปธรรมแล้วขณะนี้กำลังดำเนินการในระยะที่ 2 โดยจะทำการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ได้สูงสุดรวมกันประมาณ 1,665 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อแล้วเสร็จปัญหาน้ำท่วมหาดแทบจะไม่เกิดขึ้นเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกัน กับจังหวัดนครศรีธรรมราช หากสามารถขับเคลื่อน โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้สำเร็จได้ ปัญหาน้ำท่วมจะบรรเทาลง หรืออาจจะไม่ท่วมเลยเหมือน อ.หาดใหญ่
โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะประกอบด้วย งานสำคัญๆคือ การขุดคลองระบายน้ำสายใหม่จำนวน 3 สาย สามารถระบายน้ำได้ 650-750 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที พร้อมกับปรับคลองวังวัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำเป็น 850 ลบ.ม.ต่อวินาที และปรับปรุงคลองหัวตรุด ให้สามารถระบายน้ำได้ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาอุทกภัยในเขตเมืองนครศรีธรรมราช และลดพื้นที่น้ำท่วมได้ประมาณร้อยละ 90 ครอบคลุม 12 ตำบล มีประชาชนได้รับประโยชน์ 32,253 ครัวเรือน และยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ประมาณ 5.5 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 17,400 ไร่
แต่โครงการนี้ถูกคัดค้านตามแผนงานเดิมจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 จึงถูกเลื่อนออกไป
โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ควรจะขับเคลื่อนให้แล้วเสร็จหรือไม่ สถานการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราชในปีนี้ น่าจะให้คำตอบได้
รัฐศักดิ์ พลสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี