ยกฟ้อง “ผู้กองหยอง” อดีตรองสวป.บ้านโป่ง และอดีตเมีย จ้างวานฆ่าเสี่ยเจ้าของร้านทอง พยานหลักฐานสาวไม่ถึง ส่วนลูกน้องโดนคุก 3-5 ปี ชดใช้เงินกว่าล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีจ้างวานฆ่าเสี่ยร้านทองหมายเลขดำ อ.1869/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.ภาคภูมิ ทองแจ้ง หรือ “ผู้กองหยอง” อดีตรองสวป.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี , น.ส.เพชรรัตน์ ตั้งสิริเมธาพร หรือ “เจ๊บิ๊ก” อดีตภรรยานายอนุพันธ์ สิทธิศักดิ์ เสี่ยเจ้าของร้านทองแสงเจริญ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี , นายสุนทร สุทธิบุตร หรือแต่ , นายผจุน มีนิลดี หรือวุ่น , นายธวัชชัย เทียนสว่าง หรือต๋อง และนายวุฒิชัย น้อยหรุ่น หรือกอล์ฟ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานจ้างวานให้พยายามฆ่าผู้อื่นฯ , ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้บาดเจ็บสาหัส และ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490
อัยการโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ว่า เมื่อต้นเดือนเมษายน 2562-วันที่ 21 เมษายน 2562 ร.ต.อ.ภาคภูมิ และ น.ส.เพชรรัตน์ อดีตภรรยาของนายอนุพันธ์ ได้จ้างวานให้จำเลยอีก 3 คน ใช้อาวุธปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนยิงนายอนุพันธ์ โดยมีเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนด้าน จำเลยจึงใช้ท่อนเหล็กแป๊บพันผ้าเทปสีดำ 3 ท่อน รุมตีที่ศีรษะ และลำตัวนายอนุพันธ์ และนายชัชวาล ทราจารวัตร คนใกล้ชิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนี เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และวันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำ
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3 , 4-6 กระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ขณะเกิดเหตุ มีคนร้าย 4 คน ได้ดักทำร้ายนายอนุพันธ์ ที่บริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส โดยนายสุนทร จำเลยที่ 3 ได้ใช้อาวุธปืนบังคับ ไม่ให้ลูกน้องของนายอนุพันธ์เข้าช่วยเหลือได้ จากนั้นจำเลยที่ 4-6 ได้นำท่อเหล็กรุมทำร้ายตีบริเวณลำตัวหลายครั้ง นานประมาณ 10 นาที ทำให้นายอนุพันธ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากผลการตรวจของแพทย์พบว่า บาดแผลบริเวณลำตัวและศีรษะไม่ถึงขั้นจะเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ขณะที่ผู้เสียหายก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลาไม่ถึง 20 วัน
ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 4-6 จึงไม่ได้เจตนาจะทำร้ายให้นายอนุพันธ์เสียชีวิต เพราะตอนใช้ท่อนเหล็กตีตามลำตัวร่างกาย ไม่ได้มุ่งตีที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญ เชื่อว่าคนร้ายต้องการจะใช้ท่อนเหล็กตีสั่งสอนเท่านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 ใช้อาวุธปืนจี้ลูกน้องของนายอนุพันธ์ เพื่อไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือนั้น ก็ไม่ได้เจตนาจะยิงหรือฆ่าผู้อื่นทั้งที่มีโอกาสที่จะทำได้
พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ในความผิดฐานพยายามฆ่าฯ แต่การกระทำของจำเลยที่ 3 , 4-6 ยังคงเป็นความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้บาดเจ็บสาหัส โดยมีอาวุธปืน
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยอีกว่า จำเลยที่ 4-6 ร่วมกับจำเลยที่ 3 ข่มขืนใจผู้อื่นฯ หรือไม่ พยานหลักฐานฟังได้ว่า จำเลยทั้งหมดได้ไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อจะมาก่อเหตุทำร้ายผู้เสียหายและ ขณะนั่งรถมาด้วยกัน จำเลยที่ 4-6 รู้เห็นว่าจำเลยที่ 3 พกพาอาวุธปืนมาในกระเป๋าเสื้อ จึงถือว่าร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น และข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน
ปัญหาต้องวินิจฉัยประเด็นต่อไปว่า ร.ต.อ.ภาคภูมิ จำเลยที่ 1 และ น.ส.เพชรรัตน์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้จ้างวานหรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 4-6 ให้การว่าได้รับคำสั่งจากนายทองแดงโดยการสนทนาผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ โดยไม่รู้ชื่อ-นามสกุลจริง รู้เพียงผู้จ้างวานเป็นตำรวจ พยานหลักฐานไม่อาจเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องของนายทองแดงว่าเป็นจำเลยที่ 1 ได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1
ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น ไม่มีพยานหลักฐานใด บ่งชี้ข้อเท็จจริงได้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานและการทำร้ายร่างกาย เป็นเพียงการคาดการณ์ของโจทก์เองเท่านั้น จึงให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2
พิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้บาดเจ็บสาหัส โดยมีอาวุธปืน ,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นและพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2590 โดยจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 18 เดือน ส่วนจำเลยที่ 4 และ 6 มีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้บาดเจ็บสาหัส โดยมีอาวุธปืน , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นและพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2590 จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 4 ปี 20 เดือน
นอกจากนี้ให้จำเลยที่ 3- 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหาย จำนวน 1.2 ล้านบาทเศษ ริบของกลาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1-2 แต่ให้ขังเฉพาะจำเลยที่ 1 ไว้ระหว่างอุทธรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี