ศาลรับคำแถลงฟ้องซ้ำ‘กฤษดา’ คดีมือปาระเบิดเวทีกปปส.มีระเบิดสังหาร เลื่อนนัดพิพากษา 25 ธ.ค.
21 ธันวาคม 2563 ที่ห้องพิจารณา 802 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีมีระเบิดสังหารในครอบครอง หมายเลขดำ อ.2424/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายกฤษดา ไชยแค หรือดา อายุ 49 ปี และนายพัสนัย พนัส หรือเอก อายุ 45 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ , พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ได้ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฯ
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2556-13 สิงหาคม 2557 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกับพวก ได้มีระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ RGD 5 ผลิตในประเทศรัสเซีย และชุดเรือนชนวนจำนวน 20 ลูก ซึ่งเมื่อเกิดระเบิดสามารถทำอันตรายต่อร่างกายชีวิต และทรัพย์สินในรัศมี 15 - 20 เมตร
วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวทั้งสองจากเรือนจำมาศาล ภายหลังจากจำเลยที่ 1 แถลงต่อศาลว่า คดีนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ศาลจึงงดอ่านคำพิพากษาไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยวันนี้ 21 ศาลตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่จำเลยที่ 1 แถลงศาลว่าเป็นการฟ้องซ้ำเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เห็นควรอนุญาตให้จำเลยที่ 1 ถอนคำให้การเดิมที่รับสารภาพ และรับคำให้การใหม่ที่ปฏิเสธ พอวินิจฉัยได้ให้งดสืบพยาน โดยนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 ธันวาคม นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกฤษดานั้น เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต กรณีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2557 นายกฤษดาได้ปาระเบิดใส่เวทีผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 26 ราย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตในเวลาต่อมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี