21 ธ.ค.63 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดูแลและติดตามการผลิตหนังสือเรียน ปีการศึกษา 2564 โดยมีนายธนพร สมศรี เลขาธิการ สกสค. นายอดุลย์ บุสสาผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค. และ ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ร่วมประชุมด้วย ว่า คณะกรรมการชุดนี้เป็นการทำงานร่วมกันของ องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ซึ่งที่ประชุมได้สรุปผลการดำเนินการในปีที่ผ่านมา ว่ามีความสำเร็จ หรือมีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง และจะปรับยุทธวิธีอย่างไร เพื่อให้การจัดพิมพ์หนังสือเรียนจัดส่งถึงนักเรียนและโรงเรียนทันก่อนเปิดภาคเรียน ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ จากการหารือ พบว่า การดำเนินการที่ผ่านมาค่อนข้างมีประสิทธิภาพขึ้น สามารถจัดส่งหนังสือเรียนได้ทันตามกำหนด ยกเว้นบางโรงเรียน ที่จัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งต้องรอจำนวนนักเรียนที่แน่นอนแล้วค่อยสั่งหนังสือ จึงเป็นปัญหาที่เกิดจากโรงเรียนไม่ใช่จากองค์การค้าฯ
“ปีนี้ เพื่อให้การผลิตและจัดส่งหนังสือเรียนเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะร่นระยะเวลาการดำเนินการให้เร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำต้นฉบับของ สสวท.และการผลิตขององค์การค้าฯ รวมถึงจะเน้นย้ำไปยังโรงเรียนให้เตรียมการในการสำรวจจำนวนนักเรียน ปี 2564 ว่าแต่ละชั้นปีมีจำนวนเท่าไร เพื่อดำเนินการผลิตและจัดส่งหนังสือเรียน ให้ทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในกลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี” นายอัมพร กล่าว
ด้าน นายอดุลย์ บุสสาผู้อำนวยการองค์การค้า ของสกสค. กล่าวว่า องค์การการค้าฯ มีการจัดเตรียมความพร้อมการจัดพิมพ์หนังสือให้เร็วขึ้น คิดว่าจะสามารถจัดพิมพ์เสร็จเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยจ้างหน่วยงานภายนอกจัดพิมพ์กว่า 80% ส่วนที่เหลือ องค์การค้าฯ ดำเนินการจัดพิมพ์เอง เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด
ขณะที่ นายธนพร สมศรี เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า เชื่อว่าการจัดพิมพ์หนังสือเรียนครั้งนี้ จะช่วยลดภาระหนี้สิน เพราะใช้บุคลากรได้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายและรายได้ ก็ต้องขอขอบคุณ สพฐ.ที่สนับสนุนองค์การค้าของ สกสค.ได้กลับมาจัดพิมพ์หนังสือให้กับ สพฐ. องค์การค้าก็จะได้นำกำไรมาใช้หนี้สินที่ องค์การค้ามีอยู่ เชื่อว่าภายใน 7 - 8 ปี นี้ภาระหนี้สินขององค์การค้าฯน่าจะดีขึ้นหรือหมดหนี้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี