จับ32แรงงานเถื่อน
ซุกแคมป์สระแก้ว
ขส.ออกคำเตือน
ห้ามขนย้ายต่างด้าว
ฝ่ายปกครองสระแก้ว บุกจับ 32 แรงงานต่างด้าวคาแคมป์คนงาน พบลอบเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ ด้านกรมการขนส่งทางบก ออกประกาศขอความร่วมมือและแจ้งเตือนผู้ประกอบการขนส่งไม่ขนส่งเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในสถานการณ์ฉุกเฉิน ย้ำ!! ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผวจ.สระแก้ว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกเข้าตรวจสอบแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้าง ริมถนนสายอรัญฯ-คลองน้ำใส กม.ที่5 หมู่ที่ 8 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายลักลอบมาทำงานและพักอาศัยอยู่ที่แคมป์พักคนงานดังกล่าวเกรงจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี ผู้ใหญ่บ้าน และจนท. อสม.ร่วมเข้าตรวจสอบด้วย
จากการตรวจค้นภายในที่พักคนงานริมถนนสายอรัญประเทศ คลองน้ำใสฯ เจ้าหน้าที่พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 5 คน เป็นชาย 3 หญิง 2 คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานแต่อย่างใด โดยอ้างว่าลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดนด้านติดกับประเทศเมียนมา และไม่เคยได้รับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 หรือได้รับการกักตัว14วันตามมาตรการของศบค.แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังพบมีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาอีกจำนวน 27 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 9 คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมทั้งนำแมสมาให้แรงงานทั้งหมดได้สวมใส่ เนื่องจากมีบางคนไม่มีแมสสวมใส่ และนำเจลแอลกอฮอล์มาให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดทำการล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย ก่อนจะร่วมกันนำตัวแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 5 คน ส่งให้ สว.สอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ทำการสอบสวนดำเนินคดี ข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าว (เมียนมา) หลบหนีเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชกำหนดการบริหารบ้านเมืองในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”
ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 27 คน ถูกแจ้งข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าว (กัมพูชา) หลบหนีเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”ซึ่งหลังจาก จนท.ทำการสอบสวนทำประวัติพร้อมถ่ายภาพไว้แล้ว จนท.ประสานไปยัง จนท.ฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชา เพื่อนำตัวไปผลักดันกลับประเทศกัมพูชา ณ.ช่องทางอนุโลม ชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ต่อไป
วันเดียวกัน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่าตามที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2563 เพื่อป้องกันมิให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เกิดการระบาดลุกลามเป็นวงกว้างต่อไปจึงกำหนดมาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเฝ้าระวัง ตรวจและคัดกรองการเดินทางและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยให้เป็นไปตามมาตรการที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามข้อเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดดังกล่าว โดยเบื้องต้นที่บางจังหวัดได้มีคำสั่งหรือประกาศจังหวัด หรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า - ออกพื้นที่จังหวัด และระงับการเดินรถโดยสารประจำทางในเขตพื้นที่จังหวัดเป็นการชั่วคราว เพื่อให้การดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดฯสอดคล้องกับมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจึงขอความร่วมมือและแจ้งผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนการรับจ้างว่าเป็นการจ้างเพื่อเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และมีจุดหมายปลายทางไปยังจังหวัดที่ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า - ออกพื้นที่จังหวัดหรือไม่ หากพบว่าเป็นการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวตามประกาศของจังหวัดดังกล่าว ควรงดการรับจ้าง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พนักงานขับรถ ปฏิบัติและให้คำแนะนำผู้ใช้บริการ รวมถึงให้มีการควบคุม กำกับ ดูแล การให้บริการและการใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขและมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด อนึ่ง การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2563 มาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตามประกาศกรมการขนส่งทางบกฉบับดังกล่าว มีผลใช้บังคับครอบคลุมคำสั่งหรือประกาศจังหวัด หรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่ออกไว้ก่อนแล้ว และที่อาจมีเพิ่มเติมในระยะถัดไปตามสถานการณ์ โดยปัจจุบัน จังหวัดที่มีประกาศห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัด จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร นครปฐม กำแพงเพชร ปทุมธานี นนทบุรี ปราจีนบุรี พะเยา นครราชสีมา พิจิตร อุดรธานี และนครนายก (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2563) ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถเช่าเหมารับทราบและปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด คัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง สแกนไทยชนะหรือกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบผู้โดยสารเพื่อป้องกันการลักลอบเดินทางของแรงต่างด้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี