จเรตร.ยันผลสอบ
‘ระยอง-ชลบุรี’มีบ่อนจริง
ชงฟันตำรวจพื้นที่ทุกระดับ
ชูปฏิรูปสีกากีเอาผิดละเลย
มท.1ย้ำทุกจว.คุมเข้มปีใหม่
สั่งงดออกใบอนุญาตพนัน
จเรตำรวจรายงานผลสอบยัน “ระยอง-ชลบุรี” มีบ่อนจริง ชงสอบวินัยตร.ตั้งแต่หัวยันหางแถว ส่วนสถาบันปฏิรูปฯ ร้องนายกฯ จัดการตร.ปล่อยให้มีบ่อนซ้ำซาก จี้หาสัมพันธ์กับนายทุน ด้าน มท.1 สั่งผู้ว่าฯ คุมเข้มห้ามแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองขณะที่ปลัด มท.สั่งด่วน งดจัด-ออกใบอนุญาตพนันทุกอย่าง
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการตรวจสอบพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากบ่อนพนันในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และบขส.เก่า อ.เมือง จ.ระยอง ทำให้มีการสั่งย้ายด่วน พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ไปช่วยราชการ ศปก.ตร.และผบช.ภ.2 มีคำสั่งให้ รอง ผกก.และ สว.ในสายงานสืบสวนและสายงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองระยอง ไปช่วยราชการที่ บช.ภ.2 ขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ(หัวหน้าจเรตำรวจ) จัดทีมลงพื้นที่ จ.ระยอง และชลบุรี ตรวจสอบและรายงานผลภายใน 3 วัน ว่าทาง พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ทีมของจเรตำรวจ ได้รายงานผลการตรวจสอบต่อ ผบ.ตร.แล้ว
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจสอบยืนยันว่า มีการเปิดบ่อนการพนันทั้ง 2 แห่งจริง ทั้งๆที่ ผบ.ตร.ได้ประชุม สั่งการ กำชับ และคาดโทษไม่ให้ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันซึ่งนอกจากผิดกฎหมายยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยในส่วนของบ่อนที่ จ.ระยอง เปิดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ไม่ใช่โกดังตามที่ ผบก.ภ.จว.ระยอง เข้าใจ ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการตั้งกรรมการฯเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของ ภ.จว.ชลบุรี และ ภ.จว.ระยอง รวมถึงขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนรู้เห็นต่อไปหากมีหลักฐานถึงใครก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ส่วนการดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าของบ่อนนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลความเชื่อมโยง เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังสั่งการให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีที่ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนันในซอยแจ้งวัฒนะ 14 ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยเบื้องต้น พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัฒนา เทศยนาวิน ผบก.น.2 , ผกก., รอง ผกก.และ สว.สายสืบสวนและป้องกันปราบปราม สน.ทุ่งสองห้อง ช่วยราชการ ศปก.บช.น.แล้ว รวมทั้งสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น.เป็นประธานฯ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการพบการกระทำผิดซึ่งหน้า จับกุมได้คาหนังคาเขา ดังนั้นจึงใช้เวลาพิจารณาความผิดผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ในเวลาไม่นาน
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ติดตามตรวจสอบการฝ่าฝืนนโยบาย เปิดบ่อนพนัน หรือสถานอบายมุขผิดกฎหมายของทุก บช.อย่างใกล้ชิด เพราะรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความกังวลใจในเรื่องดังกล่าว เพราะนอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นแหล่งแพร่ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลพยายามหยุดยั้งจำกัดการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด โดยหากพบความบกพร่องก็จะพิจารณาโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือมีข้อมูล สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนรับเรื่องร้องทุกข์ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งแก้ปัญหาตำรวจระดับต่างๆ ทุจริตต่อหน้าที่หรือมีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันและอบายมุข โดยมีใจความโดยสรุปว่าตามที่น.พ.อภิรัต กตัญญูตานนท์ สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ออกประกาศเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 แจ้งเตือนประชาชนที่เล่นการพนันในบ่อนเขต อ.เมือง จ.ระยอง และเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ให้รีบกักตัวและไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากได้สอบสวนโรคพบว่ามีผู้ติดเชื้อจากบ่อนพนันทั้งสองแห่งก่อให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั้งจ.ระยองและพื้นที่อื่นๆ
รวมถึงการจับกุมบ่อนพนันในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง กทม.ซึ่งภายหลังการจับกุม ผบ.ตร.ได้สั่งให้ผู้รับผิดชอบในระดับต่างๆ ไปปฏิบัติราชการ ศปก.ตร.จังหวัด หรือที่อื่น แต่สุดท้ายก็ไม่ปรากฏว่ามีตำรวจถูกดำเนินคดีอาญาหรือลงโทษวินัยร้ายแรง สะท้อนว่าไม่ได้มีความจริงใจในการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีหรือลงโทษทางวินัยร้ายแรง ส่อว่าอาจจะรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา สั่งการไปยังหน่วยเกี่ยวข้อง 1.กรณีมีหน่วยอื่นไปจับบ่อนการพนัน เครื่องจักรการพนัน ตู้ม้า ตู้สล๊อต หรือสถานบริการผิดกฎหมายในพื้นที่ใด ให้ถือว่า ผบก. ผบช. รวมทั้งระดับรองฯ และ ผบก.ศูนย์สืบสวนผู้รับผิดชอบ ไม่เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการอย่างร้ายแรงให้ ผบ.ตร.ออกคำสั่ง “สำรองราชการ”ทุกนายทันทีโดยให้ดำเนินการในกรณีการเปิดบ่อน จ.ระยอง จ.ชลบุรี และที่ สน.ทุ่งสองห้อง เป็นลำดับแรก
2.สั่งการรมว.มหาดไทย ดำเนินการสืบสวนว่าบ่อนการพนันทั้ง 3 แห่งมีผู้ใดเป็นนายทุนหรือเจ้าของที่แท้จริง มีความสัมพันธ์กับข้าราชการตำรวจทั้งปัจจุบันและในอดีต หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือไม่ อย่างไร และเหตุใดจึงเปิดอยู่ได้โดยไม่ถูกตำรวจท้องที่จับกุม หรือมีการรายงานปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติให้หน่วยเหนือทราบ และ 3.เร่งปฏิรูปตำรวจโดยนำร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับที่คณะกรรมการตามรัฐธรรมนูญโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เพื่อตรากฎหมายให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย รวมทั้งการแยกสายงานสอบสวนให้เป็นอิสระจากฝ่ายป้องกันอาชญากรรมและในเรื่องอื่นๆ ที่เสนอตามร่างกฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญ โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล (วีซีเอส) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด ร่วมประชุมด้วย ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ต้องบูรณาการและกำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน ดำเนินมาตรการสกัดกั้นไม่ให้มีบุคคลที่เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยประสานความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล สำหรับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ลอบหลบหนีเข้าเมืองไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ทั้งที่มีนายจ้างหรือยังไม่สามารถหานายจ้างได้ ให้มาดำเนินการตามแนวทางฯ เพื่อให้สามารถอยู่และทำงานได้อย่างถูกต้อง ทำให้ภาครัฐมีข้อมูลคนต่างด้าวกลุ่มนี้ และเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานโดยต้องแจ้งรายชื่อและข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 15 มกราคม-13 กุมภาพันธ์ 2564 และสามารถอยู่ทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่าเรื่องการลักลอบเล่นการพนันจนส่งผลให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้อำนาจและสั่งการฝ่ายปกครองพร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้มงวดกวดขันรวมถึงพิจารณาปิดสถานที่ งดกิจกรรม หรือการดำเนินการอื่นๆ ต้องหารือร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดมาตรการในแต่ละพื้นที่ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำหนด โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนและสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ และในการดำเนินการกรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ดำเนินการติดตามสอบสวนโรคและค้นหาบุคคลที่ใกล้ชิดเกี่ยวข้องตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
ขณะที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง การอนุมัติอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวมีใจความสำคัญว่าเนื่องจากปัจจุบันพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในบางเขตพื้นที่ รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2558 (ฉบับที่15) ลงวันที่ 25ธันวาคม 2563 ในการกระชับและยกระดับบรรดามาตรการต่างๆที่จำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงทีและการจัดให้มีการเล่นการพนันในแต่ละครั้งเป็นกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้จังหวัดและอำเภองดออกใบอนุญาตการจัดให้มีการเล่นการพนันชนไก่ กัดปลา ชกมวย แข่งม้า ชนโคและไผ่ผ่องไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยกระทรวงมหาดไทยจะได้แจ้งให้ทราบ
ส่วนกรณีเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตที่ดำเนินการออกใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันชนไก่กัดปลา ชกมวย แข่งม้า ชนโค และไผ่ผ่องไทยไปแล้วขอให้แจ้งกับผู้ได้รับอนุญาตฯ ข้างตัน งดจัดให้มีการเล่นการพนันดังกล่าวและให้กวดขันจับกุมผู้ลักลอบจัดให้มีและผู้เข้าเล่นการพนันทุกประเภทอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี