“นครศรีธรรมราช” ยกระดับการควบคุมโรคเป็นพื้นที่สีส้ม สั่งปิดสถานที่ต่างๆที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงแรมงดจัดประชุม/สัมมนา/จัดเลี้ยง แต่เปิดให้เข้าพักได้ โรงเรียน ตลาด ร้านสะดวกซื้อไม่ปิด แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (4 มกราคม 2564) นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงมติที่ประชุม ว่า หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชนทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น ถึงมาตรการต่างๆ ภายหลังจากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ยกระดับการควบคุมโรคโควิด-19 เป็นพื้นที่สีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม
ทั้งนี้ มีมติให้ปิดชั่วคราวสถานบันเทิง สถานบริการที่จำหน่ายสุรา อาหาร ดนตรี ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านเกมส์ โรงภาพยนตร์ สวนสนุกที่มีเครื่องเด็กเล่นทั้งในห้างและนอกห้างสรรพสินค้า โรงแรมงดการจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนา แต่เปิดให้เข้าพักได้ต้องมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ตลาดสด ตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านที่มีลักษณะเดียวที่เป็นในการดำรงชีพ เปิดได้แต่ต้องมีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดทั้งก่อน -ระหว่าง และหลังใช้บริการ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า สำหรับโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่ปิด แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด เช่น สลับวันเรียน เรียนผ่านระบบทางไกล หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น แต่ถ้าพบเบาะแสสิ่งที่เสี่ยงต่อโรคเจ้าพนักงานควบคุมโรคที่รับผิดชอบพื้นที่สามารถสั่งดำเนินการหรือปิดโรงเรียนนั้นได้ทันที และที่สำคัญคือผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง ซึ่งขณะนี้มี 28 จังหวัด ที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งด่านสกัดตั้งจุดคัดกรองโรคทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัด โดยมีชุดปฏิบัติการอำเภอเป็นผู้ดำเนินการ ถ้าพบว่ามีชื่อมาจาก 28 จังหวัดหรือมากกว่านั้นถ้าประกาศจังหวัดเพิ่มเติมภายหลัง
เจ้าพนักงานควบคุมโรคต้องดำเนินการคัดกรอง 3 ขั้นตอน คือ 1 สั่งไว้สังเกตอาการ มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้เจลล้างมือ สแกนไทยชนะ 2. เจ้าพนักงานควบคุมโรคจะทำการสอบสวนสอบประวัติ ถ้าพบว่ามาจากพื้นที่เสี่ยง 28 จังหวัด หรือจังหวัดที่กำหนดเพิ่มเติมภายหลังก็จะดำเนินการคุมไว้สังเกตอาการ แยกกัก หรือกักกัน แล้วแต่กรณีซึ่งการแยกกักอาจจะใช้กักตัวเองหรือ Self Quarantine หรือ Home Quarantine กักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หรือกักที่ Local Quarantine เป็นต้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม เป็นต้นไป หากตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่รายงานตัว ไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับต่ำสุด 20,000 บาท เช่นเดียวกับสถานประกอบการ ตลาดสด ตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ก็จะมีการสั่งปิดและมีโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ด้วย
ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงแล้วกลับมาบ้านก็ต้องรู้ตัวเองด้วย ต้องแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคเพื่อคัดกรอง กักตัวเอง และชุมชนก็ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาช่วยกันตรวจสอบ สังคมช่วยกันรับผิดชอบด้วย ส่วนการปิดสถานที่ชั่วคราวนั้นใช้เวลาเบื้องต้น 28 วัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูสถานการณ์ภายในจังหวัดและสถานการณ์ภายนอกด้วย ถ้าสถานการณ์คลี่คลายก็จะมีการประกาศผ่อนคลายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี