“ศบค.” แจ้ง ยอดติดเชื้อใหม่วันนี้ 527 ราย มท.ออกมาตรการเข้ม ให้ทุกจังหวัดกักตัวคนจากพื้นที่เสี่ยง เน้นย้ำพื้นที่สีแดงต้องคัดกรองคนเดินทางเข้าออก ย้ำไม่มีล็อกดาวน์แต่ให้เรียกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
วันที่ 5 มกราคม 2563 เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 527 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 82 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีประวัติไปในสถานที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 56 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 26 ราย ขณะที่การคัดกรองเชิงรุกในแรงงานต่างด้าวจำนวน 439 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 8,966 ราย ยอดหายป่วยสะสม 4,397 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 65 ราย และขณะนี้มีจังหวัดที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 2 จังหวัด คือ จ.สิงห์บุรีและน่าน แล้วทั้งสิ้น 56 จังหวัด สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 86,102,071 ราย รักษาหายแล้ว 61,054,379 ราย เสียชีวิต 1,860,427 ราย ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 132 จำนวน 8,966 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมศบค.วันที่ 4 ม.ค.มีการชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือที่ออกโดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยมาตรการสำหรับทุกพื้นที่ให้เน้นย้ำประชาชนมีมาตรการป้องกันโรค ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้ความร่วมมือ กรณีประชาชนที่เดินทางพื้นที่ที่มีการพบเชื้อสูงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด ขอให้กักตัวเอง 14 วัน หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์และให้ข้อมูลแพทย์ตามความเป็นจริง และให้นำข้อสั่งการของนายกฯกวดขันไม่ให้มีบ่อนการพนันที่เป็นจุดเสี่ยงไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ขณะที่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการเผยแพร่โรค ห้ามนั่งบริโภคในร้านอาหาร เวลา 21.00-06.00 น. และต้องตรวจคัดกรองผู้เดินทางข้ามจังหวัดหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดกับรอยต่อพื้นที่ควบคุม ให้มีการบันทึกข้อมูลดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข และขอความร่วมมืองดหรือชะลอเดินทางข้ามพื้นที่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือการขนส่งสินค้า รวมทั้งให้เตรียมการสำหรับการตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต้องใช้แอพพลิเคชั่นหมอชนะ พร้อมกันนี้ภายในพื้นที่จังหวัดเองต้องตั้งด่านคัดกรองในพื้นที่ด้วย
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการล็อกดาวน์พื้นที่ 5 จังหวัดว่า ในที่ประชุม นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เสนอให้เพิ่มมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดอยู่แล้ว ซึ่งนายกฯพูดในที่ประชุมว่าให้พื้นที่ 5 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยเพิ่มมาตรการต่างๆเข้าไปมากกว่าพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อต้องการจำกัดกรอบการติดเชื้อ โดยพื้นที่เหล่านี้ต้องใช้แอพพลิเคชั่นหมอชนะตลอดเวลา และผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้ดุลพินิจออกมาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นขึ้นได้ เช่น อาจเพิ่มระยะเวลางดการนั่งรับประทานอาหารในร้าน แต่จะย่อหย่อนกว่ามาตรการของศบค.ไม่ได้
อย่างไรก็ตามการเพิ่มมาตรการตรงนี้จะไม่เรียกว่าล็อกดาวน์ เพราะการล็อกดาวน์คือห้ามออกจากบ้านหลัง 22.00 น. สนามบินปิด ห้ามเดินทาง แต่ตอนนี้ยังสามารถเดินทางได้อยู่ เพียงแต่ขอให้มีการตรวจสอบคนที่เดินทางเข้า-ออก และติดตั้งจุดตรวจประชาชนเข้าพื้นที่ อย่างเช่นรถบัส อาจจะต้องตรวจทุกคนอย่างละเอียด และยืนยันที่เราใช้คำนี้ไม่ใช่เป็นการเล่นคำ แต่เป็นการอำนวยความสะดวก ออกแบบให้สอดคล้องเพื่อคนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน แต่จังหวัดที่เสี่ยงโรคสูงต้องเดือดร้อน
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการสรุปข้อมูลการกระจายตัวของเชื้อโควิดใน จ.สมุทรสาคร ขณะนี้มีการกระจายตัวไปกว่า 45 จังหวัด จ.สมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดจำนวน 2,296 ราย รองลงมาคือกทม. 86 ราย นครปฐม 38 ราย โดยผู้ติดเชื้อร้อยละ 71 เป็นชาวเมียนมา ร้อยละ 24 เป็นคนไทย และอื่นๆร้อยละ 5 ขณะที่การกระจายตัวผู้ติดเชื้อใน จ.ระยอง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติเชื่อมโยงกับบ่อน และนำไปติดผู้ที่ไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับบ่อน ส่วนเรื่องการใช้หน้ากากสำหรับคนที่ใช้ชีวิตประจำวัน ขอให้ใช้หน้ากากผ้า เช่น ที่ทำจากผ้าฝ้าย เมื่อซักแล้วเส้นใยจะยิ่งละเอียดและสามารถกันละอองฝอยได้ดี ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขอเว้นไว้ใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ญาติ ที่จะต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแม้วันนี้เราจะมีกำลังการผลิต 5 ล้านชิ้น แต่หากเรามีประชากรมาแย่งกันใช้ในปริมาณที่สูงก็จะไม่เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จึงขอให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้าในชีวิตประจำวัน
เมื่อถามถึงการรับประทานอาหารในร้านที่มีข้อมูลไม่ตรงกันอยู่ระหว่างห้ามรับประทานในเวลา 19.00 น. หรือ 21.00 น. เป็นต้นไป นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยเพื่อหามาตรการที่ดีที่สุด ซึ่งมีหนังสือมาจากสมาคมภัตตาคารไทย ขอให้ออกมาตรการที่เหมาะสม เนื่องจากให้ความร่วมมือมาตลอด แต่พอออกมาตรการมาพวกเขาได้รับผลกระทบ ที่ประชุมศบค.จึงเห็นว่าการห้ามรับประทานอาหารตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าจังหวัดไหนอยากให้มาตรการเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมก็สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือกัน การใช้ชีวิตวิถีใหม่ให้รับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 21.00 น.ก็จะดำเนินการไป แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือศบค.ก็อาจต้องทบทวนมาตรการต่างๆอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี