ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนลงพื้นที่ตรวจด่านชายแดนไทย-เมียนมาช่องทางห้วยผึ้ง เน้นมาตรการคุมเข้ม การลักลอบเข้าประเทศ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้านในฝั่งพม่ากองกำลัง KNPP ชาวกะเหรี่ยงคะยาสั่งห้ามข้ามสาละวินเข้ามาในไทยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะยิงทันที
วันที่ 8 ม.ค.64 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมบริเวณจุดผ่อนปรนชั่วคราวช่องทางบ้านห้วยผึ้ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเยี่ยมและให้กำลังพลทหาร และฝ่ายปกครอง ประจำจุดตรวจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มอบแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) หลังจากที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีการยกระดับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงให้เจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันแนวตะเข็บชายแดนอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งยังได้ให้แนวทางในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว ที่จะลักลอบเข้ามาขายแรงงานอย่างผิดกฎหมาย ให้เพิ่มมาตรการคุมเข้มในการป้องกันดูแลปัญหายาเสพติดอีกด้วย
สำหรับจุดผ่อนปรนชั่วคราวช่องทางการค้าชายแดนไทย-เมียนมา บ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนประกาศปิดด่าน ห้ามบุคคล ยานพาหนะ สินค้า ทุกชนิดเข้าออก มาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม - 31 ตุลาคม 2563 จากนั้นนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ออกคำสั่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2554/2563 ให้ปิดด่านจุดตรวจผ่อนปรนชั่วคราวทุกช่องทางรวมทั้งช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.63 ออกไปจนถึงปัจจุบัน เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักในประเทศเมียนมาเข้ามาในประเทศไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ที่ผ่านมาช่องทางดังกล่าว เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดน มีการแลกเปลี่ยนค้าขายกันระหว่างพ่อค้าชาวไทยกับพ่อค้าชาวรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ในแต่ละปีหลายพันล้านบาท ต้องชะลอตัวและหยุดชะงักลงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด19 ในประเทศไทยกับประเทศเมียนมาคลี่คลายลงก็จะมีการเปิดให้มีการค้าขายระหว่างพ่อค้าไทยกับพ่อค้าเมียนมา เพื่อสนับสนุนส่งเสริมรายได้ทางด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันต่อไป
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการเดินทางออกตรวจติดตามจุดผ่อนปรนด่านชายแดนแต่ละแห่ง พบว่าเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ให้ความสำคัญ ร่วมกันออกลาดตระเวรตามช่องทางธรรมชาติและเฝ้าระวังทุกจุดตรวจอย่างเข้มข้น ทำให้ไม่มีบุคคลหรือยานพาหนะลักลอบหลบหนีเข้ามาแต่อย่างใด เราสามารถสกัดกั้นไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามา ขอให้ประชาชนสบายใจ เราจะไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด 19 เข้ามาตามแนวชายแดนอย่างเด็ดขาด
แหล่งข่าวกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ( Karenni National Progressive Party : KNPP) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เรื่องการระบาดของโรคโควิดในรัฐคะยา ที่มีเมืองลอยก่อว์เป็นเมืองหลวง ทางกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ได้มีคำสั่งห้ามมีการเคลื่อนย้ายผู้คนจากในตัวเมืองอื่นเข้ามาในจังหวัดลอยก่อว์อย่างเด็ดขาด รวมไปถึงคนในจังหวัดลอยก่อว์ หรือตามหัวเมืองอื่น ๆ ห้ามประชาชนลักลอบเดินทางข้ามแม่น้ำสาละวินเข้ามาทางด้านทิศตะวันออกเพื่อเข้ามาหางานทำในไทยอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกยิงจากหน่วยทหารทันที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบเข้าไทยและนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดและส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี