เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 245 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 181 ราย ผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 43 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 21 ราย รวมสะสม 10,298 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 8,157 ราย รักษาหายแล้ว 6,428 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 17 ราย เหลือรักษาอยู่ 3,803 ผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 67 ราย
โดยในจํานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 181 ราย มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 7 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 107 ราย อัตราการเสียชีวิต 0.65%ถือเป็นประเทศหนึ่งของโลกที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ
หากแยกเฉพาะการระบาดรอบใหม่ตั้งแต่ 15 ธ.ค.2563 -10ม.ค.2564 จำนวนผู้ป่วยสะสม 6,061 รายผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศด้วย ยังอยู่ รพ.1,811 ราย อาการหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ 6 ราย ยังอยู่รพ.สนาม 1,678 ราย รักษาหายแล้ว 2,479 ราย โดยวันที่ 10 ม.ค.มีผู้หายป่วยวันเดียว 882 ราย พบผู้ติดเชื้อใน 58 จังหวัดยังเท่าเดิม โดยมีจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 ราย 9 จังหวัด คือ สมุทรสาคร กรุงเทพฯ ระยอง ชลบุรี ตราด อ่างทอง นครปฐม นนทบุรี และสมุทรปราการ ผู้ติดเชื้อ 11 - 50 ราย 13 จังหวัด มี 1 - 10 ราย 16 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วย 19 จังหวัดหรือสีขาว
นอกจากนี้ มี 20 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยในรอบ 7 - 14 วันที่ผ่านมา หรือสีเขียว ทั้งนี้ ตามตารางแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยรายใหม่และสะสม 15 ธ.ค.2563 - 10 ม.ค.2564 ยังมี 10 จังหวัดที่ทิศทางการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าวันก่อนหน้า ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ลพบุรี และเชียงใหม่
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมทั่วประเทศตามเขตสุขภาพทั้ง 13 เขต รวม 43,077 พบติดเชื้อ 2,573 ราย โดยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในกลุ่มต่างชาติเฉพาะเขตสุขภาพที่ 5 (ครอบคลุมสมุทรสาคร) และเขตสุขภาพที่ 4 (ครอบคลุมนนทบุรี) ส่วนเขตสุขภาพอื่นๆ ไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน โดยพบผู้ติดเชื้อในเขต 3 จำนวน 3 ราย เขต 11 จำนวน 1 ราย และเขตเมืองพื้นที่ กทม.9 ราย และเขตอื่นไม่พบผู้ติดเชื้อ
"สถานการณ์โดยภาพรวมคงตัว และผู้ติดเชื้อลดลงในอีก 2 สัปดาห์ สิ้นเดือนม.ค.ตัวเลขรายใหม่อยู่ที่ 2 หลัก และก.พ.จะอยู่ที่ 2 หลักเช่นกันแต่จะไม่สูงขึ้น และจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง ซึ่งสัปดาห์นี้ จะมีการพิจารณาเรื่องของสถานการณ์การติดเชื้อที่ดีขึ้นตามลำดับ อาจมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆมากขึ้น เพื่อให้กระทบประชาชนและเศรษฐกิจน้อยที่สุด แต่เมื่อมีการผ่อนปรนแล้วทุกฝ่ายต้องมีวินัยป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อวงกว้างขึ้นมาอีก ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันและทำได้ดี เชื่อว่าปลายเดือนก.พ.ประเทศไทยจะผ่านการระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมกันได้อย่างสง่างาม"นพ.เกียรติภูมิกล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ในการจัดหาวัคซีนซึ่งประเทศไทยมีการเตรียมการมาตั้งแต่ปี 2563 นั้น โดยปลายเดือนก.พ.จะได้จากที่จัดซื้อเร่งด่วนของชิโนเวค (sinovac) ล็อตแรก 2 แสนโดส มี.ค.ได้อีก 8 แสนโดส และเม.ย.ได้อีก 1 ล้านโดส รวม 2 ล้านโดส และ พ.ค.จะได้จาการจองซื้อแบบรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาผลิตในประเทศไทยจากแอสตร้าเซนเนก้า 26 ล้านโดสมและระยะต่อไปจะจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวม 63 ล้านโดสสำหรับประชาการ 30 กว่าล้านคน น่าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันของประเทศไทยได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี