เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งจาก นายถิรภัทร เพิ่มพูน อายุ 56 ปี ว่า ตนได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน พอ-3605 กรุงเทพมหานคร มาจอดอยู่ริมถนนบริเวณสี่แยกทางเข้าอำเภอและเทศบาลบ้านหมี่ โดยมีลูกชิ้นหมูและเนื้อ จำนวน 2 ถุง วางอยู่กระบะหลัง และได้เดินข้ามไปซื้อของที่ตลาดสดเทศบาล หลังจากนั้นได้เดินกลับมาที่รถ ก็พบว่าลูกชิ้น 2 ถุง ที่วางไว้ในกระบะได้หายไป
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพหัวขโมยไว้ได้ชัดเจน โดยพบว่า หัวขโมยได้ใส่เสื้อยืดแขนสั้นคอกลม สีเขียว นุ่งกางเกงเจเจลายดอกสีแดง ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีฟ้า-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับเข้ามาบนถนนบริเวณตลาดสดเทศบาลบ้านหมี่ ในขณะที่ขับรถได้มีการหันไปมองหาของมีค่าตามรถของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนน โดยหัวขโมยได้ขับรถจักรยานยนต์วนไปวนมาอยู่หลายรอบ และได้ขับผ่านป้อมตำรวจ แต่ก็ไม่มีการเกรงกลัวแต่อย่างไร
จนกระทั่งหัวขโมยได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณท้ายรถยนต์ของนายถิรภัทร ที่จอดอยู่ริมถนน หลังจากนั้นได้ลงไปหยิบเอาถุงใส่ลูกชิ้นขนาดใหญ่ จำนวน 2 ถุง ที่วางไว้กระบะหลัง ยกขึ้นใส่รถจักรยานยนต์ และได้ขับหายไป
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมี่ ไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามส้นทางที่คาดว่าหัวขโมยได้ขับหลบหนีไป จนได้เบาะแสของหัวขโมย ประกอบกับได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวาทิต หรือเอ แววพลอย อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ หมู่ที่ 5 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
กระทั้งเวลา 21.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค.64 ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.สรพัศ คำพานิช ผู้กำกับการ สภ.บ้านหมี่ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.มงคล คเชนทร รองผู้กับการสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านหมี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมี่ ได้เดินทางไปเข้าจับกุมตัว นายวาทิต หรือเอ ที่บ้านพัก แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถไปถึงหมู่บ้านที่นายวาทิต ก็พบนายวาทิต ยืนอยู่ริมถนนท่าทางมีพิรุจ จึงได้จอดรถลงไปหานายวาทิต และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอตรวจค้นภายในตัว พบว่ามียาบ้าสีส้ม จำนวน 6 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่
จากการสอบถามนายวาทิต ยอมรับว่า ยาบ้าที่พบเป็นของตนเอง และนายวาทิต ยังได้ยอมรับสารภาพอีกว่า เมื่อช่วงเช้าตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ไปขโมยลูกชิ้นจากหลังรถยนต์กระบะ มาจำนวน 2 ถุง จริง และได้นำไปเก็บไว้ที่บ้านพัก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายวาทิต ไปตรวจสอบที่บ้านพัก และพบว่ามีลูกชิ้นอยู่จำนวนน้ำหนักประมาณ 13 กิโลกรัม ที่ไปขโมยมา และจากการตรวจค้นภายในบ้านพัก ยังพบทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ อาทิ หมวกกันน็อค , ข้าวสาร , หมูยอ โดยนายวาทิต ให้การยอมรับว่า ของทั้งหมดนี้ตนได้ขโมยมาเช่นกัน และนอกจากนี้ ยังพบเสื้อและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โดยพบว่ารถจักรยานยนต์ได้มีการถอดฝาข้างออกเปลือยทั้ง 2 ข้าง เพื่อไม่ให้จำได้
นายวาทิต ผู้ต้องหา กล่าวอ้างว่า ที่ตนต้องออกตระเวรหาขโมยของแบบนี้ ก็เพราะว่าตนตกงานมประมาณ 2 เดือน และตนต้องหาเงินมาเลี้ยงเมียและลูกวัย 3 เดือน และยังบอกอีกว่าไม่ค่อยได้ออกขโมย บอกว่าส่วนใหญ่ตนจะออกหาปลาและรับจ้างเกี่ยวข้าว ของที่ขโมยมาจะเอาไว้กินและขาย ส่วนเงินที่ได้มาจากการเอาของที่ขโมยมาไปขาย ก็จะแบ่งให้พ่อ และนำมาซื้อของกินและซื้อยามาเสพ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันยึดของกลางทั้งหมด และทำการจับกุมตัวนายวาทิต พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ" นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี