อดีตนายก อบจ.พิจิตรควงทนายความตั้งโต๊ะแถลงข่าว แฉพบมีการทุจริตการเลือกตั้ง อบจ.หลายวิธีจนทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่โปรงใส และมีการซื้อเสียงเกิดขึ้นทุกอำเภอ ใช้เงินมหาศาลทำเป็นระบบทั้งผู้สมัคร เจ้าหน้าที่ของรัฐ กรรมการประจำหน่วย ขณะที่ กกต.พิจิตรเร่งสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่ม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 ม.ค.64 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อดีตนายก อบจ.) พิจิตร 6 สมัยพร้อมด้วยนายกำยุทธ อารีรักษ์ นักกฎหมาย ได้เปิดแถลงข่าวการเลือกตั้งสมาชิก อบจ.และนายก อบจ.พิจิตร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พบมีการทุจริตและกลโกงเลือกตั้งหลายวิธีจนทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่โปรงใส
นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ได้กล่าวถึงการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมามีการทุจริตที่ใช้เงินมหาศาลทำเป็นระบบทั้งผู้สมัคร เจ้าหน้าที่ของรัฐ กรรมการประจำหน่วย การสร้างข่าวปลอมให้ร้ายคู่แข่งและการสร้างเครือข่ายซื้อเสียง ในระดับชุมชน พฤติกรรมการทำผิดกฏหมายเลือกตั้งการซื้อเสียงได้ยื่นร้อง กกต.จังหวัดพิจิตรไปกว่า 10 เรื่องเชื่อมโยงกันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในประเด็นการใช้สิทธิ์แทนกัน ปล่อยให้ผู้ไม่มีสิทธิ์อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าไปใช้สิทธิ์แทน มีเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วยโทรศัพท์ถึงผู้ไม่มาเลือกตั้งถามเลขบัตรประชาชนแล้วเอาไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนโดยผู้มีสิทธิ์ไม่ได้มาเลือกตั้งแต่อย่างใด การเลือกตั้งเลยเวลาปิดหีบไปแล้วยังปล่อยให้ผู้มาลงคะแนนไม่ทันไปใช้สิทธิ์แล้วมาทำหลักฐานตรวจสอบรายชื่อภายหลัง
การอ่านคะแนนที่ไม่มีพยานจากหลายฝ่ายเป็นโอกาสของการอ่านคะแนนที่ผิดพลาดหรือจงใจให้กลายเป็นบัตรเสียหรือสร้างคะแนนให้ผู้สมัครรายหนึ่ง ในภาพรวมแล้วเป็นขบวนการใช้เงินซื้อยกหน่วย และยังมีการซื้อเสียง หาเสียง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จแบบผิดกฏหมายเลือกตั้ง พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 อาทิ การหาเสียงยกทีมก่อนประกาศให้มีการเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ตามมาตรา 64 มาตรา 129 มีการเผยแพร่ทางคอมพิวเตอร์ให้ร้ายในการทำงานเมื่อยังดำรงตำแหน่งเพื่อให้เสียคะแนนนิยมเป็นการกล่าวข้อมูลเท็จ อาทิ การทุจริตใช้เงิน อบจ.แก้ปัญหาโควิดในช่วงแรกในการพ่นยาฆ่าเชื้อไปถึง 30 ล้านในความจริงแล้ว อบจ.พิจิตรใช้เงินไปเพียง 5 ล้านเท่านั้น
อดีตนายก อบจ.พิจิตร 6 สมัย กล่าวต่อว่า ทั้งการซื้อเสียงในชุมชน การทุจริตการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งทำกันเป็นขบวนการทั้งนักการเมือง หัวคะแนนกลุ่มทุน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าไม่มีการแก้ไข ค้นหาข้อเท็จจริง ลงโทษผู้กระทำผิด ขบวนการนี้จะถูกนำไปใช้กับการเลือกตั้งเทศบาล และ อบต. ต่อไปซึ่งน่าวิตกมาก เพราะขบวนการนี้จะทำให้ผู้ที่มีเงินมากชนะการเลือกตั้งจะส่งผลร้ายต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างร้ายแรงในอนาคต จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ฝ่ายสอบสวน กกต.พิจิตร ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเร่งให้มีการบังคับใช้ ลงโทษตามกฏหมายในห้วงเวลา 60 วันหลังวันเลือกตั้ง
โดยล่าสุดนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ได้เข้าให้ปากคำต่อฝ่ายสืบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดพิจิตร ที่สำนักงาน กกต.พิจิตร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร หลังจากเป็นผู้ร้องทุจริตเลือกตั้งในกรณีซื้อเสียง ซื้อหน่วยเลือกตั้งและถูกกล่าวให้ร้ายสร้างความเสื่อมเสียจนส่งผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนายชาติชายได้นำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์รู้เห็นเหตุการณ์มาพร้อมให้ข้อมูลกับ กกต.ด้วย
ขณะที่ ร.ต.อ.สุชีพ จาดย่านขาด ผอ.กกต.พิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้มีการเรียกสอบบุคคลพิสูจน์หลักฐานตามที่มีการร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง บางกรณีต้องล่าช้าบ้างในเงื่อนไขโควิด 19 ในประเด็นสอบสวนจะนำเรื่องสำคัญมาดำเนินการก่อนโดยเฉพาะเรื่องผู้สมัครนายก อบจ.ก่อนเพื่อให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี