ป.ป.ส.เผยภาครัฐเร่งไขสาเหตุการเสียชีวิต และส่วนผสมของ "เคนมผง" เตือนภัยการเสพหลายตัวยาในเวลาเดียวกันอันตรายถึงตาย ระบุ 2550 - 2562 ตาย 105 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไทย รองลงมาเป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เผยจากกรณีมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนหลายรายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจากการรายงานระบุว่า เกิดจากการเสพคีตามีน ที่เรียกว่า "เคนมผง" ซึ่งคาดว่าเป็นการผสมของคีตามีนกับยาเสพติดชนิดอื่นนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดชนิดนี้ โดยการพิสูจน์ทางการแพทย์จากผู้เสียชีวิต และการตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาส่วนผสมของเคตามีนนมผง ประกอบกับเร่งสืบสวนจับกุมผู้ที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อนำมารับโทษทางกฎหมาย ซึ่งถ้าได้รับผลการตรวจพิสูจน์จะรายงานให้ทราบต่อไป ขอเตือนภัยผู้ที่ยังใช้ยาเสพติดโดยเฉพาะการใช้ยาเสพติดหรือสารเสพติดเพียงตัวเดียวก็มีอันตรายแล้ว แต่เมื่อมีการใช้ผสมหลายตัวยา และฤทธิ์ต่างกันยิ่งอันตรายมากขึ้น เพราะอาจทำให้ถึงตายได้
"จากการรายงานของเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหาสารเสพติดจากการตรวจหาสารเสพติดจากชีววัตถุทางนิติเวชศาสตร์/นิติวิทยาศาสตร์ พบว่าผู้ใช้ยาเสพติดจนถึงแก่ความตายหลายรายเป็นผลมาจากการเสพยาเสพติดหลายชนิดในเวลาเดียวกัน โดยจากการตรวจพบผู้เสียชีวิตเนื่องจากใช้ยาเกินขนาด (overdose) ในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2550 - 2562 จำนวน 105 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไทย รองลงมาเป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วนอายุของผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดพบว่า อายุน้อยที่สุดคือ 16 ปี อายุมากที่สุดคือ 66 ปี อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 36 ปี และพบว่าแนวโน้มของอายุต่ำสุดตั้งแต่ ปี พ.ศ.2559 เป็นต้นมา จะยู่ในช่วง 16 - 21 ปี สำหรับชนิดสารเสพติดที่ตรวจพบในผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกิดขนาด พบว่าส่วนใหญ่ตรวจพบสารเสพติด 1 ชนิด ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน สารกลุ่มโอปิเอตส์ (Opiates ได้แก่ เฮโรอีน มอร์ฟีน 6-MAM และโคเดอีน) ยากล่อมประสาท และยาเคตามีน ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการเสพสารเสพติดร่วมกัน 2 ชนิด และบางคดีเสพร่วมกัน 3 ชนิด อีกด้วย" เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวในตอนท้ายว่า ปัญหาของการใช้สารเสพติด หรือสารออกฤทธิ์ หลายชนิดในเวลาเดียวกัน คือ บางครั้งผู้เสพไม่รู้สึกถึงปริมาณสารที่สูงขึ้นซึ่งทำให้เกิดผลต่อร่างกายรุนแรงได้ ยกตัวอย่าง การใช้สารกระตุ้นประสาท เช่น ยาบ้า ไอซ์ โคเคน ร่วมกับสารที่มีฤทธิ์ง่วงซึม หรือสารกดประสาท เช่น เคตามีน ฟลูไนตราซีแปม (Flunitrazepam) ทำให้ฤทธิ์จากสารกระตุ้นประสาทลดลงและการง่วงซึม จะไม่รุนแรงเท่ากับการใช้สารที่มีฤทธิ์ง่วงซึมเพียงอย่างเดียว หรือการเสพสารที่มีฤทธิ์ง่วงซึมหลายชนิดร่วมกัน อาจเสริมฤทธิ์กัน ทําให้ ง่วงซึม หลับลึก ชีพจรช้า ความดันโลหิตต่ำ และอาจหยุดหายใจได้ จึงขอเตือนผู้ที่ยังเสพยาเสพติดอยู่ว่า การใช้ยาเสพติดหลายชนิดร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่างจากการใช้ยาเสพติดแบบเดิมนั้นอันตรายมาก เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งหากต้องการเลิกยาเสพติด หรือต้องการเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติด สามารถติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต 16 แห่ง โรงพยาบาลธัญญารักษ์ 7 แห่ง (โรงพยาบาลเฉพาะทาง) หรือขอรับคำปรึกษาด้านการบำบัดได้ที่ สายด่วน 1165 หรือโทรปรึกษาสถานบำบัดและแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี