13 มกราคม 2564 ช่วงสายวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์ชาญชัย บุญอยู่ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา , นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวดฯ หัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มอีก 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมแล้ว 10 ราย โดยรายล่าสุด เป็นหญิง อายุ 37 ปี อาชีพแม่บ้าน มีประวัติเดินทางกลับมาจากจังหวัดระยอง พื้นที่สีแดงเสี่ยงสูง
ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ล่าสุดจังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 10 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 7 ราย โดยให้ไปกักตัวที่ รพ.พิมาย (รายที่1) , รพ.สีคิ้ว 1 ราย (รายที่ 2) , รพ.บัวใหญ่ 3 ราย (รายที่3,5,6,) , รพ.เทพรัตน์ 1 ราย (รายที่ 4) และ ส่งกลับภูมิลำเนา จ.ตราด 1 ราย (รายที่ 7) ยังเหลือรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา (รายที่ 8 และ 9) อาการคงที่ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญและภรรยา พบเชื้อเมื่อ 4 ม.ค. 2564 ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
โดยรายล่าสุดหญิงวัย 37 ปี มีไทม์ไลน์ของผู้ป่วยดังนี้ วันที่ 2 ธ.ค.63 เดินทางจาก อ.ปากช่อง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงคนเดียว ไปหาแฟนที่พักอาศัยอยู่ห้องแถวใน ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง
วันที่ 3-25 ธ.ค.63 ผู้ป่วยไปซื้อของในตลาดนัดในพื้นที่อาทิตย์ละครั้ง แต่จำวันไม่ได้ โดยตลาดมีการคัดกรอง และผู้ป่วยรายนี้ได้สวมหน้ากากผ้าอนามัยทุกครั้ง
วันที่ 26 ธ.ค.63 เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปซื้ออาหารสดที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ระยอง และแวะตลาดสดใน ต.ทับมา ช่วงเย็นทานอาหารปิ้งย่างกับแฟน และเพื่อนข้างห้อง โดยไม่ใช้ช้อนกลาง และจิ้มน้ำจิ้มถ้วยเดียวกัน
วันที่ 27 ธ.ค.63 เดินทางกลับ อ.ปากช่อง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเดินทางเพียงคนเดียว ระหว่างทางแวะปั๊มที่ อ.แกลง จ.ระยอง 1 ครั้ง จากนั้นเวลา 13.30 น ถึง อ.ปากช่อง แวะพูดคุยกับญาติ และเพื่อนข้างบ้าน ไม่เกิน 5 นาที แต่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งผู้ป่วยได้รายงานตัวกับอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ และร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านของญาติ
วันที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยและหลาน เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่ตลาดนัดศาลเจ้า ต.กลางดง
วันที่ 29 ธ.ค.63 เวลา 19.00-21.00 น. ผู้ป่วยร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนในหมู่บ้าน
วันที่ 30 ธ.ค.63 อสม.แจ้งให้ผู้ป่วยกักตัว เนื่องจากเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผู้ป่วยจึงเริ่มกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยให้เพื่อนบ้านนำอาหารมาส่งที่หน้าบ้าน และไม่ได้พูดคุยกับใคร
วันที่ 31 ธ.ค.63 ผู้ป่วยกักตัวอยู่บ้าน และช่วงบ่ายลูกชายได้เดินทางมาหาเพื่อซื้ออาหารมาให้ผู้ป่วยในช่วงกักตัว โดยนอนแยกห้องกับผู้ป่วย และไม่ได้ทานอาหารร่วมกัน แต่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน
ต่อมาวันที่ 1-7 ม.ค.64 ผู้ป่วยกักตัวอยู่บ้าน และเริ่มมีอาการ ปวดศีรษะ ลิ้นไม่รับรส จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่นวันที่ 8-9 ม.ค.64 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปากช่อง
วันที่ 10 ม.ค.64 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอปากช่องได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค และค้นหากลุ่มเสี่ยง โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 20 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 16 ราย โดยทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักตัว และตรวจหาเชื้อ แต่ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม
นายวิเชียร จันทรโณทัย กล่าวว่า ล่าสุดผู้ป่วยสะสม 10 ราย จังหวัดก็ยังถือมาตรการเข้ข้นอยู่แล้วในเฟส 1 ที่ควบคุมอยู่ โดยรายที่ 10 อยู่ อ.ปากช่อง มาจาก จ.สมุทรสาคร ซึ่งวันนี้ยังใช้มาตรการที่มีอยู่แต่เข้มมากขึ้น และจากนี้ไปจะเร่งให้ทางน้องๆทีมสมาร์ทโฟนตำบลที่เรามีทุกตำบล โดยมอบหมายงานให้ออกไปตามตำบลต่างๆในพื้นที่รับผิดชอบไปเร่งรัดและกระตุ้นให้มีการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขให้มากยิ่งขึ้น โดยพื้นที่ที่ผู้ป่วยไปตามไทม์ไลน์เราจะมีการไปพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดทันที
อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นล็อคดาวพื้นที่ไหนๆแต่อย่างใด ทั้งนี้ จ.นครราชสีมาผ้ป่วยส่วนใหญ่ติดมาจากพื้นที่สีแดง โดยเรายังไม่ใช่เป็นพื้นที่สีแดง เรายังไม่มีการติดโควิดในพื้นที่ เรายังเป็นพื้นที่สีส้มที่เป็นพื้นที่ควบคุมต่อไป นอกจากนี้โทรศัพท์สายด่วน 1567 ยังติดต่อได้ทุกเรื่องของศูนย์ดำรงธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี