จังหวัดบุรีรัมย์ แถลงพร้อมดำเนินการกับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์อย่างเด็ดขาด
14 มกราคม 2564 ที่ห้องแถลงข่าว สนามช้างอารีนา อำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์และเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19
การแถลงข่าววันนี้ เนื่องจาก ได้เกิดเหตุการณ์ที่อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและไม่ปฏิบัติตนตามประกาศและตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร วันที่ 6 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. ซึ่งปกติผู้ป่วยรายนี้ได้ทำงานและพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง เนื่องจากทั้งจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดง พื้นที่เสี่ยงมากและเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อมาร่วมงานศพ และเมื่อมาถึงได้ไปพูดคุย ทักทาย กอดญาติ และเข้าไปเคารพศพโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งร่วมกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบุคคลอื่นในงานทันที โดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในประกาศฯ ที่กำหนดให้ผู้เดินทางทุกคนต้องไปรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. หรือ ศูนย์คัดกรอง COVID - 19 ประจำหมู่บ้าน หรือชุมชนท้องที่ที่อำเภอกำหนด รวมทั้งไม่กรอกแบบคำถามสุขภาพในแบบฟอร์ม ต.8 บร. นั้น
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.) ถือว่าเป็นความผิดฐานฝ่าฝืน ข้อ 8.2.1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ซึ่งทางจังหวัดจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบข้อมูลว่า มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เข้ามาในพื้นที่ ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อมาร่วมงานศพ โดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และต่อมาเป็นผู้ป่วยโรค โควิด 19 และเข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสนามป่าโมก นั้น จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ออกค้นหาผู้สัมผัส ผู้ป่วยรายนี้ตาม Timeline ได้พบผู้สัมผัสทั้งหมดประมาณ 37 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 13 ราย (ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มเสี่ยงสูงให้ผลลบทั้งหมด) และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 24 ราย อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง สังเกตอาการ และจะค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มในพื้นที่ต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว แม้ว่าผู้ติดเชื้อโควิด–19 จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้ว แต่ถือว่าเป็นผู้ที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยไม่ปฏิบัติตาม ประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่า เป็นผู้มีความผิดตามประกาศฯ จังหวัดบุรีรัมย์ จะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป และเนื่องจากช่วงนี้ยังมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงฝากถึงประชาชนชาวบุรีรัมย์ ให้ปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุข มีการแสกนแอปพลิเคชัน ไทยชนะ เมื่อต้องเข้าสถานที่ต่างๆ เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่เข้าไปอยู่ในสถานที่ ที่มีผู้คนชุมนุมกันเป็นจำนวนมากสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100 % และล้างมือบ่อยๆ พร้อมขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข และประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้จังหวัดบุรีรัมย์ของเราปลอดภัยจากโรคติดเชื้อโควิด – 19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี